เครื่องซักผ้าไม่หมุน สาเหตุและวิธีแก้ไขเบื้องต้น
เครื่องซักผ้าเป็นอุปกรณ์ประจำบ้านที่ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการซักทำความสะอาดเสื้อผ้าและขจัดสิ่งสกปรก แต่เมื่อผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน ในบางครั้งอาจพบเจอปัญหาเครื่องซักผ้าไม่หมุน ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นมาดูกันว่า เครื่องซักผ้าไม่หมุนมีสาเหตุเบื้องต้นมาจากอะไรบ้าง และมีวิธีแก้อย่างไร
เครื่องซักผ้าไม่หมุน เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง
สาเหตุของเครื่องซักผ้าไม่ค่อยหมุน หรือถังซักผ้าไม่หมุน เกิดได้จากหลากหลายปัจจัยตั้งแต่ปัญหาภายนอกที่สามารถแก้ไขได้เองทันที จนไปถึงปัญหาภายในที่ต้องเรียกช่างซ่อม ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การที่เครื่องซักผ้าไม่หมุนอาจเกิดได้จากสาเหตุเหล่านี้
เครื่องซักผ้าไม่หมุนเพราะไม่ล้างเครื่องซักผ้าเป็นระยะเวลานาน
หากไม่เคยล้างเครื่องซักผ้าเลย ก็อาจเป็นสาเหตุของเครื่องซักผ้าถังซักไม่หมุน เนื่องจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ในชีวิตประจำวันนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นละอองที่อาจลอยมาติดเสื้อผ้า เส้นผม ขนสัตว์ หรือเส้นใยจากผ้าที่หลุดตามธรรมชาติ ทำให้เวลาซักผ้าอาจจะมีเศษฝุ่นเหล่านี้ตกค้างอยู่ในถังซัก เมื่อสะสมไปนาน ๆ ก็อาจไปอุดตันตามจุดต่าง ๆ ส่งผลให้เครื่องซักผ้าหมุนไม่แรง หรือเครื่องซักผ้าหมุนแล้วหยุดได้
เครื่องซักผ้าไม่หมุนเพราะน้ำค้างอยู่ในถัง ท่อระบายน้ำออกไม่หมด
โดยปกติแล้ว เครื่องซักผ้าจะเริ่มทำงานเมื่อมีการระบายน้ำออกจนหมด ดังนั้นเมื่อจู่ ๆ เกิดปัญหาเครื่องซักผ้าไฟเข้าแต่ไม่หมุน อาจลองตรวจสอบก่อนว่ามีน้ำขังอยู่ในท่อระบาย หรือท่อบิดงออยู่หรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการอุดตันของท่อน้ำด้วยว่ามีอะไรเข้าไปอุดตันอยู่หรือไม่
เครื่องซักผ้าไม่หมุนเพราะปิดฝาเครื่องไม่สนิท ลงล็อกไม่แน่น
ปกติเมื่อเปิดเครื่องซักผ้าในขณะที่เครื่องทำงานอยู่ จะสังเกตว่าเครื่องซักผ้าจะหยุดหมุนทันที ดังนั้นหากเครื่องซักผ้าไม่หมุน ลองตรวจเช็กว่าฝาเครื่องซักผ้านั้นลงล็อกปิดสนิทอยู่หรือไม่ โดยอาจเกิดได้บ่อยกับคนที่ใช้เครื่องซักผ้าฝาบน เพราะจะใช้แรงในการปิดน้อยกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า
เครื่องซักผ้าไม่หมุนเพราะใส่ผ้ามากเกินไป ไม่เหมาะกับความจุเครื่องซักผ้า
การใส่ผ้าในปริมาณที่มากเกินความจุขนาดเครื่องซักผ้าก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องซักผ้าไม่มีแรงหมุนได้ เนื่องจากเครื่องรับน้ำหนักผ้าที่มากเกินไปไม่ไหว กระจายน้ำหนักได้ไม่ทั่วถึง หากเครื่องซักผ้าไม่หมุนจากการใส่ผ้าในปริมาณมาก อาจแบ่งผ้าที่ต้องการซักออก และทำการกระจายน้ำหนักผ้าก่อนเริ่มการทำงานของเครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้าไม่หมุนเพราะใส่ผงซักฟอกมากเกินไปจนตกค้างในเครื่อง
การใส่ผงซักฟอกในปริมาณที่มากเกินไป หรือใช้ผงซักฟอกที่ไม่เหมาะกับเครื่องซักผ้า ก็อาจส่งผลให้เครื่องซักผ้าไม่หมุนได้เช่นกัน เนื่องจากความสามารถในการละลายของผงซักฟอกอาจจะไม่ดีพอ และกลายเป็นสิ่งตกค้างในท่อหรือตามรูเครื่องซักผ้าต่าง ๆ ซึ่งจะกลายเป็นสาเหตุของมอเตอร์เครื่องซักผ้าไม่หมุน หรือถังปั่นแห้งหมุนช้า
นอกจากนี้ การใช้ผงซักฟอกที่ไม่เหมาะกับเสื้อผ้า ยังเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เสื้อผ้าเสียหายได้ ดังนั้นก่อนใช้ผงซักฟอกควรตรวจสอบว่าเหมาะสมกับเครื่องซักผ้าของเราหรือไม่ และยังควรตรวจสอบเพิ่มเติมโดยสังเกตสัญลักษณ์ซักผ้าก่อนว่า เสื้อผ้าของเราเหมาะกับผลิตภัณฑ์ซักฟอกแบบไหน เพื่อถนอมเครื่องซักผ้าและเสื้อผ้าของเราให้ใช้งานได้นานขึ้น
เครื่องซักผ้าไม่หมุนเพราะสายพานเสีย ขาดหรือชำรุด
หากเครื่องซักผ้ามีอาการไม่หมุน และไม่ได้มีปัญหาจากสาเหตุก่อน ๆ หน้า อาจเป็นไปได้ว่าสายพานเสีย วิธีตรวจสอบว่าสายพานเสียหรือขาดหรือไม่ ให้ลองใช้มือหมุนถังซัก หากถังซักหมุนแบบไม่มีแรงต้าน แปลว่าสายพานชำรุดเสียหาย ในกรณีนี้จะต้องให้ช่างซ่อมผู้เชี่ยวชาญมาทำการซ่อมแซม
เครื่องซักผ้าไม่หมุนจากปัญหาด้านไฟฟ้า
หากไฟตก ไฟดับหรือเกิดการกระชากของไฟ ก็อาจทำให้เครื่องซักผ้าไม่หมุนได้ ในกรณีนี้อาจทำการรีเซตระบบเครื่องซักผ้าด้วยการถอดปลั๊กออกให้เรียบร้อยก่อน และเมื่อไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้ก็ทำการเสียบปลั๊กและเริ่มการทำงานของเครื่องซักผ้าอีกครั้ง
เครื่องซักผ้าไม่หมุนเพราะระบบการทำงานของเครื่องเกิดปัญหาด้านเทคนิคภายใน
ถ้าลองตรวจสอบสาเหตุของเครื่องซักผ้าไม่หมุนตามปัจจัยทั้งหมดแล้ว รวมถึงลองดึงปลั๊กแล้วเสียบใหม่แต่เครื่องซักผ้าก็ยังไม่ทำงาน อาจเป็นไปได้ว่าระบบการทำงานภายในของเครื่องซักผ้านั้นมีปัญหา ต้องให้ช่างมาตรวจเช็กถึงความผิดปกติเพื่อทำการซ่อมแซมต่อไป
เครื่องซักผ้าไม่หมุน วิธีแก้ไขและการดูแลเบื้องต้น
ปิดฝาเครื่องซักผ้าให้สนิทก่อนเริ่มซัก
หากใครที่ใช้เครื่องซักผ้าฝาหน้า อาจไม่ค่อยพบเจอปัญหาเครื่องซักผ้าไม่หมุนจากการปิดฝาเครื่องซักผ้าไม่สนิท เนื่องจากเครื่องซักผ้าฝาหน้าจะต้องใช้แรงปิดค่อนข้างมาก แต่สำหรับใครที่ใช้เครื่องซักผ้าฝาบน ทั้งแบบถังเดียว หรือเครื่องซักผ้า 2 ถังแล้วเครื่องซักผ้าไม่หมุน วิธีแก้คืออาจลองตรวจเช็กว่าฝาเครื่องซักผ้าปิดสนิทลงล็อกหรือไม่ เพราะเครื่องซักผ้าส่วนใหญ่จะถูกตั้งระบบมาให้หยุดทำงานหากมีการเปิดฝาเครื่อง
ไม่ใส่ผ้า/ผงซักฟอกเยอะจนเกินไปให้เครื่องซักผ้าทำงานหนัก
ในเบื้องต้นหากเครื่องซักผ้าไม่หมุน วิธีแก้คืออาจแบ่งผ้าที่จะทำการซัก ไม่ซักในปริมาณที่มากเกินไป และกระจายผ้าให้ทั่วถังซัก ไม่อัดกันอยู่จุดเดียวเพื่อกระจายน้ำหนัก รวมถึงใส่ผงซักฟอกในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อลดโอกาสเกิดการตกค้างของผงซักฟอก
สำหรับการซักผ้านวมที่มีขนาดใหญ่ หากใช้เครื่องซักผ้าที่ไม่เหมาะกับการรองรับน้ำหนักของผ้านวมก็จะทำให้การทำงานของเครื่องซักผ้าหนักขึ้น และอาจส่งผลให้เครื่องซักผ้าไม่หมุนได้เช่นกัน ดังนั้นก่อนซักผ้านวมอาจลองเช็กก่อนว่าเครื่องซักผ้ากี่กิโล ซักผ้านวมได้ เพื่อดูว่าความจุเครื่องซักผ้าที่มีนั้นเหมาะสำหรับซักผ้านวมในขนาดเท่าไหร่ได้บ้าง
ตรวจเช็กเครื่องซักผ้าก่อนปั่นว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่
ก่อนที่จะทำการใส่ผ้าลงถังซัก อาจลองตรวจเช็กเครื่องซักผ้าก่อนว่ามีสิ่งผิดปกติใด ๆ หรือไม่ เช่น ลองหมุนใบพัดด้วยมือ ตรวจสอบน้ำขังในท่อระบายน้ำ ก้อนขนผ้า เหรียญ หรือสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดและจัดการให้เรียบร้อยก่อนเริ่มซักผ้า
ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าสม่ำเสมอ เคลียร์สิ่งแปลกปลอมตกค้าง
การล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอยู่เสมอ ก็จะเป็นการเคลียร์สิ่งตกค้างจากการซักผ้าไม่ให้ไปอุดตันตามช่องหรือท่อระบายต่าง ๆ เพื่อลดโอกาสการเกิดอาการเครื่องซักผ้าไม่ปั่นแห้ง เนื่องจากมีสิ่งแปลกปลอมตกค้างอุดตันอยู่เป็นจำนวนมากในระยะเวลานาน ๆ
ซ่อมเครื่องซักผ้าไม่หมุนโดยผู้แทนติดตั้งที่เชี่ยวชาญ
วิธีซ่อมเครื่องซักผ้าไม่หมุนกรณีที่สายพานชำรุดหรือระบบเกิดปัญหา อาจจะต้องทำการซ่อมแซมจากช่างหรือผู้แทนให้บริการในการติดตั้งที่มีความเชี่ยวชาญ
เครื่องซักผ้าไม่หมุน แก้ยังไงดี
ปัญหาเครื่องซักผ้าไม่หมุน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ในเบื้องต้นสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเองจากการตรวจเช็กความผิดปกติต่าง ๆ เช่น มีสิ่งแปลกปลอมหรือน้ำขังในท่อ ส่งผลให้เครื่องซักผ้าระบายน้ำออกไม่หมดและไม่ทำงาน
แต่สำหรับในกรณีที่เครื่องซักผ้ามอเตอร์ไม่หมุนจากปัญหาทางเทคนิค สายพานเสีย หรือระบบภายในชำรุด จะต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นคนซ่อม เนื่องจากในบางจุดอาจไม่สามารถซ่อมแซมด้วยตนเองได้
หากเครื่องซักผ้า Beko ของคุณเกิดปัญหาเครื่องซักผ้าไม่หมุน และได้ทำการแก้ไขตามสาเหตุเบื้องต้นแล้วยังไม่สามารถใช้งานได้ อาจเป็นไปได้ว่าเกิดปัญหาทางเทคนิคภายใน คุณสามารถเรียกผู้แทนบริการที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Beko เพื่อทำการตรวจเช็ก และซ่อมแซมให้เครื่องซักผ้ากลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดิม พร้อมบริการให้คำแนะนำการใช้งานเครื่องซักผ้า
เลือกซื้อเครื่องซักผ้า Beko อุ่นใจกว่ากับการรับประกันมอเตอร์ยาวนาน 12 ปี และ on-site service 2 ปี รายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.beko.com/th-th/aquatech