ขนาดเครื่องซักผ้า เลือกอย่างไรที่ใช่ แบบไหนถึงจะตอบโจทย์
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
คุณเพิ่งเพิ่มสินค้านี้ในรายการที่คุณต้องการ
คุณเพิ่งลบสินค้านี้ออกจากรายการที่ต้องการ
คุณไม่สามารถเพิ่มไปยังรายการที่ต้องการ
คุณไม่สามารถเพิ่มไปยังรายการที่ต้องการ
คุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการล้างการเปรียบเทียบของคุณ
ดำเนินการต่อ
คุณสามารถเปรียบเทียบสินค้าได้จากหมวดหมู่เดียวกันเท่านั้น
คุณเพิ่งเพิ่มรายการเพื่อเปรียบเทียบ ดำเนินการต่อ
คุณเพิ่งลบรายการเพื่อเปรียบเทียบ ดำเนินการต่อ
รายการเปรียบเทียบของคุณเต็มแล้ว
คุณเพิ่มสินค้าแค่ 1 รายการเท่านั้น โปรดเพิ่มสินค้าเพื่อทำการเปรียบเทียบ
ขนาดเครื่องซักผ้า เลือกอย่างไรที่ใช่ แบบไหนถึงจะตอบโจทย์
ขนาดเครื่องซักผ้า เลือกอย่างไรที่ใช่ แบบไหนถึงจะตอบโจทย์

อ่านแล้ว 1 นาทีที่แล้ว

เลือกขนาดเครื่องซักผ้า
เลือกขนาดเครื่องซักผ้า

ขนาดเครื่องซักผ้า วิธีเลือกเครื่องซักผ้าอย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งาน

ก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องซักผ้า ต้องไม่ลืมคำนึงถึงขนาดเครื่องซักผ้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และขนาดครัวเรือนของตนเอง เพราะจุดประสงค์ของการใช้เครื่องซักผ้านั้นมีเพื่ออำนวยความสะดวก ประหยัดเวลา และที่สำคัญคือมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนั้นมาดูวิธีเลือกเครื่องซักผ้าด้วยเคล็ดลับจาก Beko กัน

 

ขนาดเครื่องซักผ้ามาตรฐานต่างกันอย่างไร แต่ละขนาดเหมาะกับใคร

 

การเลือกเครื่องซักผ้าให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานมีความสำคัญตรงที่เราจะสามารถเลือกขนาดเครื่องซักผ้าที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ เพราะถ้าหากเป็นครอบครัวที่มีจำนวนคนเยอะ ต้องซักผ้าทีละมาก ๆ หรือซักผ้าที่มีน้ำหนักบ่อยครั้ง การใช้เครื่องซักผ้าขนาดเล็กก็อาจจะทำให้ค่าเสื่อมสภาพของเครื่องซักผ้านั้นเกิดขึ้นเร็วกว่าอายุการใช้งานได้ ถึงแม้ว่าจะมีการดูแลล้างเครื่องซักผ้าเป็นอย่างดีก็ตาม

 

เครื่องซักผ้าจึงมีการทำขนาดออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เครื่องซักผ้าขนาดเล็ก ขนาดกลาง จนไปถึงเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ โดยจะแบ่งตามขนาดเครื่องซักผ้ามาตรฐานกว้างยาวสูง และความจุจะขึ้นอยู่กับความลึกหรือความยาวของเครื่องซักผ้า

 

เครื่องซักผ้าขนาดเล็กสำหรับพื้นที่จำกัด หรือครัวเรือนขนาดเล็ก

 

เครื่องซักผ้าขนาดเล็ก หรือเรียกอีกแบบว่าเครื่องซักผ้าถังเล็ก จะมีความจุประมาณ 7 กิโลกรัม 

ขนาดเครื่องซักผ้ากว้างยาวสูงของถังซักผ้าขนาดเล็ก จะอยู่ที่ประมาณ 60x49x84 เซนติเมตร สามารถซักผ้าได้สูงสุด 30 ชิ้น ซักผ้าขนหนูได้ประมาณ 10 ผืนต่อหนึ่งรอบ

 

เครื่องซักผ้าขนาดเล็กจึงเหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่จำกัด เช่น คอนโด อะพาร์ตเมนต์ หรือครอบครัวขนาดเล็กที่มีสมาชิกไม่เกิน 2 คน

 

เครื่องซักผ้าขนาดกลางสำหรับครัวเรือนทั่วไป

 

เครื่องซักผ้าขนาดกลาง จะมีความจุอยู่ที่ประมาณ 9-10 กิโลกรัม ขนาดเครื่องซักผ้ามาตรฐานประมาณ 60x64x84 เซนติเมตร สามารถซักผ้าได้สูงสุดประมาณ 50 ชิ้น ซักผ้าขนหนูได้ประมาณ 11-15 ผืนต่อรอบ และนอกจากนี้ยังสามารถซักผ้าในจำนวนการใช้งานรายสัปดาห์ร่วมกับการซักผ้าผืนใหญ่อย่างผ้าขนหนู หรือผ้าห่มขนาดเล็กแบบบาง เครื่องซักผ้าขนาดกลางจึงเหมาะกับครัวเรือนทั่วไปที่มีจำนวนสมาชิกในบ้านประมาณ 3-4 คน

 

เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่สำหรับครัวเรือนขนาดใหญ่

 

เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ จะมีความจุตั้งแต่ 11 กิโลกรัมขึ้นไป โดยขนาดมาตรฐานของเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่นี้จะอยู่ประมาณ 60x67x84 เซนติเมตร สามารถซักผ้าได้ 50 ชิ้นขึ้นไป ซักผ้านวมได้ 1 ผืนต่อรอบ จึงเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีจำนวนสมาชิก 4 คนขึ้นไป

 

ขนาดเครื่องซักผ้า หมายถึงอะไร น้ำหนักหรือความจุ?

เครื่องซักผ้าหนักกี่กิโล
เครื่องซักผ้าหนักกี่กิโล

ขนาดเครื่องซักผ้าที่เห็นกันอย่างทั่วไป เช่น เครื่องซักผ้าขนาด 7 กิโลกรัม ไม่ได้หมายความว่าน้ำหนักเครื่องซักผ้าหนัก 7 กิโลกรัม แต่หมายถึงเครื่องซักผ้านั้นสามารถบรรจุผ้าแห้งสำหรับซักได้สูงสุด 7 กิโลกรัมโดยที่ยังสามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น การเลือกขนาดเครื่องซักผ้าจึงต้องคำนึงถึงปริมาณของเสื้อผ้าที่ต้องการซักรายสัปดาห์ โดยอาจวัดจากการชั่งน้ำหนักเสื้อผ้าโดยตรง หรือกะคร่าว ๆ จากน้ำหนักของเสื้อผ้า เช่น เสื้อ 6 ตัว กางเกงยีน 5 ตัวจะได้น้ำหนักรวมโดยประมาณเป็น 1 กิโลกรัม เป็นต้น

เคล็ดลับการเลือกขนาดเครื่องซักผ้าให้ตอบโจทย์

เครื่องซักผ้าขนาดเล็ก คอนโด
เครื่องซักผ้าขนาดเล็ก คอนโด

 

การล้างถังซักผ้าสามารถล้างได้ทั้งภายนอกและภายใน โดยจะขออธิบายวิธีการล้างเครื่องซักผ้าด้านนอกก่อน ซึ่งแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ส่วน ดังนี้

 

เลือกจากจำนวนเสื้อผ้าที่ต้องซักรายสัปดาห์

 

ก่อนอื่นอาจลองประเมินคร่าว ๆ ว่า ในหนึ่งสัปดาห์ซักผ้าประมาณกี่ชิ้น เพื่อที่จะได้เลือกขนาดเครื่องซักผ้าที่เหมาะสมกับปริมาณผ้าแห้งของตนเองได้ เช่น ใน 1 สัปดาห์ มีจำนวนผ้าที่ต้องซักประมาณ 30 ชิ้น เผื่อซักผ้าขนหนูประมาณ 2-3 ผืน ก็อาจจะเลือกเครื่องซักผ้าขนาดกลาง เป็นต้น

 

ทั้งนี้การซักผ้าจริงก็อาจจะใส่ผ้าแห้งได้ไม่ครบ 30 ชิ้น เพราะขึ้นอยู่กับลักษณะของเสื้อผ้าที่จะมีน้ำหนักแตกต่างกัน เช่น ผ้ายีน เสื้อเชิ้ต ผ้าวูลที่มีความหนา เป็นต้น

 

เลือกจากน้ำหนักของเสื้อผ้าที่ต้องซัก สังเกตเนื้อผ้าจากไลฟ์สไตล์การแต่งตัว

 

การสังเกตไลฟ์สไตล์การใส่เสื้อผ้าของตนเองก็สามารถช่วยในการเลือกขนาดเครื่องซักผ้าได้ เพราะน้ำหนักของเสื้อผ้าแต่ละชนิดไม่เท่ากัน ถ้าหากเป็นคนชอบใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงยีน หรือใส่เสื้อสูทบ่อย ๆ ก็อาจจะเลือกเครื่องซักผ้าขนาดกลางขึ้นไป หรือถ้าเน้นสวมใส่เสื้อผ้าที่สะดวกสบาย ผ้าไม่หนามาก ก็สามารถเลือกเครื่องซักผ้าขนาดเล็กได้

 

เลือกจากความถี่ของการซักผ้า หากซักบ่อยอาจต้องเปลี่ยนขนาด

 

การเลือกขนาดเครื่องซักผ้าก็สามารถเลือกจากความถี่ในการซักผ้าได้ เช่น ปกติเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ ทำให้ต้องมีการซักผ้าอยู่บ่อยครั้ง เพื่อประหยัดเวลา อาจเลือกซื้อเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่เพื่อให้จุเสื้อผ้าได้มากขึ้น

 

เลือกจากพื้นที่ที่วางเครื่องซักผ้า พื้นที่แบบไหนควรเลือกอะไร

 

เอาจเลือกขนาดเครื่องซักผ้าจากพื้นที่ในการวาง เช่น ถ้ามีพื้นที่จำกัด หรือพื้นที่ในการวางเครื่องซักผ้าไม่มาก ก็อาจจะเลือกเครื่องซักผ้าขนาดเล็กที่ตอบโจทย์ในเรื่องพื้นที่มากกว่า

 

เลือกจากฟังก์ชันของเครื่องซักผ้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซักยิ่งขึ้น

 

ปัจจุบันก็มีฟังก์ชันใหม่ ๆ ของเครื่องซักผ้าเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมที่ช่วยประหยัดเวลาในการซักผ้า หรือฟังก์ชันซักผ้าเร่งด่วน ซึ่งฟังก์ชันเหล่านี้ก็มีผลในการเลือกขนาดเครื่องซักผ้าเช่นกัน เพราะหากมีฟังก์ชันที่สามารถซักผ้าได้อย่างเร่งด่วน ใช้เวลาน้อย ก็จะไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่เพื่อรอซักทีละมาก ๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ เป็นต้น


เลือกจากประเภทการใช้งานของเครื่องซักผ้า ใช้งานแบบไหนเหมาะกับประเภทอะไร

 

  • เครื่องซักผ้าฝาหน้า

เครื่องซักผ้าฝาหน้าสามารถจุเสื้อผ้าได้เยอะ ซักผ้าได้สะอาด และยังถนอมผ้าอีกด้วย เหมาะสำหรับใช้งานในครัวเรือนที่มีคนเยอะ นอกจากนี้ถึงแม้จะซักผ้าได้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ประหยัดพลังงานกว่าเครื่องซักผ้าประเภทอื่น ๆ

  • เครื่องซักผ้าฝาบน 

เครื่องซักผ้าฝาบนเป็นเครื่องซักผ้าประเภทที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในครัวเรือน ด้วยขนาดที่กะทัดรัด ใช้เวลาในการซักไม่นาน เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือผู้ที่มีพื้นที่จำกัด เช่น นิสิตนักศึกษาที่อาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์

  • เครื่องซักผ้าสองถัง 

เครื่องซักผ้าสองถังจะเป็นเครื่องซักผ้าไม่ปั่นแห้งในถังเดียว จะต้องมีการย้ายผ้าหลังจากปั่นน้ำเสร็จจากถังซัก ไปยังถังสำหรับปั่นแห้งต่างหาก มีข้อดีคือสิ่งสกปรกที่ออกจากเสื้อผ้าจะไม่ติดค้างอยู่ในถังปั่นแห้ง ราคาย่อมเยา แต่ก็เหมาะกับคนที่มีเวลาในการซักผ้า และมีพื้นที่ในการจัดวาง

 

ขนาดเครื่องซักผ้า เลือกอย่างเหมาะสมพร้อมฟังก์ชันพิเศษจาก Beko

 

ขนาดเครื่องซักผ้าเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า เนื่องจากจะทำให้อายุของเครื่องซักผ้านั้นเป็นไปตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นในแต่ละขนาด และส่งผลในเรื่องของความสามารถในการทำความสะอาดเสื้อผ้าอีกด้วย

 

โดยเครื่องซักผ้าขนาดมาตรฐานทั่วไป จะประกอบไปด้วย 3 ขนาด ได้แก่ เครื่องซักผ้าขนาดเล็ก กลาง และเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ แต่ละขนาดจะแตกต่างกันที่ความลึก ซึ่งเป็นความจุของเครื่องซักผ้า ยกเว้นเครื่องซักผ้าแบบสองถังที่จะมีขนาดความยาวแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ ในการเลือกเครื่องซักผ้า นอกจากเรื่องขนาดแล้ว ก็มีเคล็ดลับวิธีเลือกเครื่องซักผ้าอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น จำนวนเสื้อผ้า น้ำหนักของเสื้อผ้า พื้นที่จัดวาง จนไปถึงฟังก์ชันใหม่ ๆ ของเครื่องซักผ้า

 

เครื่องซักผ้าจาก Beko ก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีฟังก์ชันเครื่องซักผ้าให้ตอบโจทย์ผู้คนในยุคปัจจุบันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประหยัดเวลา แต่ยังได้เสื้อผ้าที่สะอาด ด้วยฟังก์ชันซักด่วนภายใน 28 นาที หรือซักเสื้อผ้า 2 กิโลกรัมเสร็จไวใน 14 นาที

 

นอกจากนี้ Beko ยังใส่ใจในเรื่องการออกแบบถังซักเพื่อถนอมผ้า เช่น ประตูฝาหน้าของถังปั่นรูปคลื่น เพื่อจำลองการปั่นเสื้อผ้าในรูปแบบคลื่น ซึ่งจะมีความนุ่มนวล ลดสัมผัสหยาบกับเสื้อผ้า ส่งผลให้ผ้าได้รับความเสียหายน้อยลง และถนอมผ้าให้ดูใหม่อยู่เสมอ ในเรื่องของประกันและอายุการใช้งาน ก็อุ่นใจกว่ากับการรับประกันมอเตอร์ยาวนาน 12 ปี และ On-site Service 2 ปี ชมรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.beko.com/th-th/aquatech

 

แชร์