วิธีซ่อมเครื่องซักผ้า แก้ปัญหาเครื่องซักผ้าเสียหรือใช้งานไม่ปกติด้วยตัวเอง

หลายบ้านมีการใช้งานเครื่องซักผ้าหนักและขาดการดูแลรักษาที่ดี ทำให้เครื่องซักผ้าใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพหรือมีปัญหาก่อนเวลาอันควร หากเครื่องซักผ้าของคุณเสียหรือมีอาการผิดปกติ บทความนี้ได้รวบรวมวิธีซ่อมเครื่องซักผ้าเบื้องต้น เพื่อให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง หรือเตรียมพร้อมรอรับบริการซ่อมเครื่องซักผ้าถึงบ้านโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ จะมีวิธีอะไรบ้าง มาดูกัน

สารบัญบทความ

• รวมปัญหายอดฮิต พร้อมวิธีซ่อมเครื่องซักผ้าเบื้องต้นด้วยตัวเอง

• เคล็ดลับการใช้เครื่องซักผ้าอย่างถูกวิธี ช่วยลดปัญหาการซ่อมเครื่องซักผ้า
  
  
• ซ่อมเครื่องซักผ้าด้วยตัวเอง แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

รวมปัญหายอดฮิต พร้อมวิธีซ่อมเครื่องซักผ้าเบื้องต้นด้วยตัวเอง

เครื่องซักผ้าที่ผ่านการใช้งานไปสักระยะมักมีปัญหาหรือความผิดปกติเกิดขึ้นได้ ซึ่งต้นตอของปัญหาเกิดจากหลายสาเหตุ มาดูกันว่าปัญหาที่เจอบ่อย ๆ นั้นมีอะไรบ้าง มีสาเหตุมาจากอะไร และมีวิธีซ่อมเครื่องซักผ้าเบื้องต้นด้วยตัวเองอย่างไร

ซ่อมเครื่องซักผ้า อาการน้ำล้นถังซัก น้ำไม่ตัด

อาการน้ำล้นออกจากถังซักเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและจะเกิดตอนก่อนเริ่มซัก มีสาเหตุมาจากเซนเซอร์วัดระดับน้ำ (Pressure Switch) สกปรกหรือเสีย ทำให้เครื่องซักผ้าเติมน้ำเข้าถังซักจนล้นและไม่ตัดการทำงานเมื่อถึงระดับที่กำหนด วิธีซ่อมเครื่องซักผ้าสำหรับปัญหาน้ำล้นถังซัก ในเบื้องต้นให้ถอดเซนเซอร์วัดระดับน้ำมาทำความสะอาดแล้วลองเปิดเครื่องใช้งานเครื่องอีกครั้ง หากยังไม่หายเป็นไปได้ว่าเซนเซอร์อาจจะเสียหรือเสื่อมสภาพ แนะนำให้ทำการเปลี่ยนเซนเซอร์ตัวใหม่

ซ่อมเครื่องซักผ้า อาการน้ำไม่เข้าเครื่อง

อาการน้ำไม่เข้าเครื่องซักผ้าส่วนใหญ่เกิดจากการลืมเปิดวาล์วน้ำเข้าเครื่อง หรือมีสิ่งสกปรกไปอุดตันที่แผ่นกรองภายในช่องน้ำเข้า วิธีซ่อมเครื่องซักผ้าน้ำไม่เข้าเครื่อง ขั้นแรกลองตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปิดวาล์วน้ำเข้าเครื่องเรียบร้อยแล้ว จากนั้นตรวจดูให้แน่ใจว่า สายน้ำเข้าไม่มีการหักงอ แตก หรือรั่วซึม หากน้ำยังไม่ไหลเข้าเครื่องอีกก็เป็นไปได้ว่าแผ่นกรองภายในช่องน้ำเข้าอาจจะอุดตัน ให้ทำความสะอาดแผ่นกรองโดยนำสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ออกมาทิ้งให้หมด 

ซ่อมเครื่องซักผ้า อาการเครื่องไม่หมุน

อาการเครื่องซักผ้าไม่หมุนมีหลายสาเหตุ เช่น ปิดฝาเครื่องไม่สนิท ใส่ผ้ามากเกินไป มีน้ำค้างในถังซัก สายพานขาด มอเตอร์ร้อนเกินไป มอเตอร์เสีย เป็นต้น วิธีซ่อมเครื่องซักผ้าที่มีปัญหานี้ควรเริ่มจากการไล่หาสาเหตุให้แน่ชัดก่อน เมื่อรู้สาเหตุแล้วจึงลงมือแก้ไข 

เบื้องต้นควรใส่ปริมาณผ้าและผงซักฟอกอย่างเหมาะสม จากนั้นปิดฝาเครื่องให้สนิท หากเครื่องยังไม่หมุน ลองใช้มือหมุนถังซักดูว่ามีอะไรติดขัดหรือไม่ ถ้าถังซักติดขัด เป็นไปได้ว่าอาจจะมีเหรียญหรือเศษผ้าเข้าไปติดขัดบริเวณสายพานหรือมอเตอร์ ถ้าเป็นกรณีนี้ควรเรียกช่างมาช่วยแก้ไข 

อีกหนึ่งวิธีซ่อมเครื่องซักผ้าไม่หมุนคือการรีเซตระบบด้วยการปิดเครื่อง ถอดปลั๊ก ทิ้งระยะไว้สักครู่ให้มอเตอร์เย็นลง แล้วลองเปิดเครื่องซักผ้าอีกครั้ง หากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการเครื่องซักผ้า

ซ่อมเครื่องซักผ้า อาการเครื่องไม่ปั่นแห้ง

เครื่องซักผ้าไม่ปั่นแห้งเป็นอีกหนึ่งปัญหายอดฮิตที่พบเจอได้บ่อย สาเหตุหลักมักเกิดจากการที่เครื่องซักผ้าระบายน้ำออกไม่หมด ทำให้มีน้ำตกค้างในถังซักจนไม่สามารถปั่นแห้งได้ วิธีซ่อมเครื่องซักผ้าไม่ปั่นแห้งคือการตรวจเช็กท่อระบายน้ำทิ้งพร้อมกับเอาสิ่งสกปรกและเศษผ้าออกให้หมดเพื่อให้น้ำระบายได้อย่างสะดวก หากเป็นเครื่องซักผ้า 2 ถังก็ไม่ควรใส่ผ้าในถังปั่นแห้งมากเกินไปและต้องปิดฝาถังให้สนิททุกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากตรวจเช็กเบื้องต้นแล้วยังพบว่ามีปัญหาอยู่ ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบ

ซ่อมเครื่องซักผ้า อาการเครื่องไม่ระบายน้ำออกจากถังซัก

ปัญหาเครื่องไม่ระบายน้ำออกจากถังซักมีต้นตอมาจาก 2 สาเหตุหลักคือปั๊มน้ำทิ้ง (Drian Pump) เสีย และท่อน้ำทิ้งอุดตัน ซึ่งพบได้บ่อยเมื่อใช้งานเครื่องซักไปนาน ๆ วิธีซ่อมเครื่องซักผ้าที่มีปัญหานี้ในเบื้องต้นคือการถอดปั๊มน้ำทิ้ง (Drain Pump) มาทำความสะอาด เอาสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออก พร้อมกับทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งไม่ให้มีสิ่งสกปรกหรือเศษผ้าไปอุดตัน หากทำความสะอาดแล้วแต่ยังมีปัญหาอยู่ การเปลี่ยนปั๊มน้ำทิ้งตัวใหม่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด

ซ่อมเครื่องซักผ้า อาการเครื่องปั่นเสียงดัง

เครื่องซักผ้าเก่าอาจทำงานเสียงดังเป็นปกติ แต่ถ้ามีเสียงแปลก ๆ หรือได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรกระทบกับถังซัก เป็นไปได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมตกค้างอยู่ในเครื่องซักผ้า วิธีแก้คือให้หยุดการทำงานของเครื่องซักผ้าทันที แล้วตรวจดูสิ่งแปลกปลอมในถังซัก เมื่อเจอแล้วก็ควรเอาออกมาให้เรียบร้อย จากนั้นจึงค่อยกดปุ่มเริ่มทำงานต่อ

ซ่อมเครื่องซักผ้า อาการเครื่องปั่นไม่หยุด

อาการเครื่องซักผ้าปั่นไม่หยุดมีสาเหตุหลักมาจากระบบควบคุมการจับเวลาหรือเซนเซอร์ตรวจจับการปั่นผิดปกติ หรือมีปัญหาทางไฟฟ้าในระบบควบคุม การซ่อมเครื่องซักผ้าที่เจอปัญหานี้จำเป็นต้องซ่อมบอร์ดเครื่องซักผ้าโดยการถอดออกมาดูว่ามีความผิดปกติตรงส่วนไหน มีรอยไหม้ สนิม หรือคราบขี้เกลือหรือไม่ หากลองทำความสะอาดแล้วยังไม่หายก็อาจจะต้องเปลี่ยนบอร์ดใหม่ 

ซ่อมเครื่องซักผ้า อาการเครื่องไม่ผสมผงซักฟอก

อาการเครื่องซักผ้าไม่ผสมผงซักฟอกเป็นปัญหาที่ทำให้การซักผ้าไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร และทำให้เสื้อผ้าไม่สะอาด สาเหตุหลักของปัญหานี้เกิดจากถาดใส่ผงซักฟอกไม่สะอาดและอุดตัน รวมถึงการใช้ผงซักฟอกผิดประเภท การซ่อมเครื่องซักผ้าที่เจอปัญหานี้ หากเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้า ให้ถอดเอาถาดใส่ผงซักฟอกออกมาล้างทำความสะอาดให้เกลี้ยง หากเป็นเครื่องซักผ้าฝาบน สามารถใช้น้ำอุ่นผสมกับน้ำส้มสายชู หรือน้ำยาล้างเครื่องซักผ้าเทลงไปในช่องใส่ผงซักฟอกเพื่อชำระล้างสิ่งอุดตันที่อยู่ภายใน

ซ่อมเครื่องซักผ้า อาการมีน้ำรั่วออกจากเครื่อง

เครื่องซักผ้าเก่าอาจทำงานเสียงดังเป็นปกติ แต่ถ้ามีเสียงแปลก ๆ หรือได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรกระทบกับถังซัก เป็นไปได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมตกค้างอยู่ในเครื่องซักผ้า วิธีแก้คือให้หยุดการทำงานของเครื่องซักผ้าทันที แล้วตรวจดูสิ่งแปลกปลอมในถังซัก เมื่อเจอแล้วก็ควรเอาออกมาให้เรียบร้อย จากนั้นจึงค่อยกดปุ่มเริ่มทำงานต่อ

เคล็ดลับการใช้เครื่องซักผ้าอย่างถูกวิธี ช่วยลดปัญหาการซ่อมเครื่องซักผ้า

ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอ

การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำจะช่วยให้เครื่องซักผ้าทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและช่วยลดปัญหาที่ทำให้ต้องซ่อมเครื่องซักผ้าลงไปได้ แนะนำว่าควรล้างเครื่องซักผ้าประมาณ 2 เดือนครั้งเพื่อเอาสิ่งสกปรก เศษผ้า คราบผงซักฟอก เชื้อรา และแบคทีเรียที่อยู่ภายในเครื่องออกไป ทำได้ง่าย ๆ โดยใช้น้ำยาล้างเครื่องซักผ้าซึ่งมีให้เลือกทั้งชนิดน้ำและชนิดผง ช่วยลดกลิ่นอับ ทำให้ผ้าสะอาดหมดจดทุกครั้งที่ซัก และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้าได้ยาวนานยิ่งขึ้น

ไม่ใส่เสื้อผ้าเยอะเกินไป

ควรใส่เสื้อผ้าในปริมาณที่เหมาะสมกับขนาดเครื่องซักผ้า พร้อมกับตรวจเช็กว่ามีสิ่งของอื่น ๆ นอกเหนือจากเสื้อผ้าติดเข้าไปในเครื่องซักผ้าด้วยหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องซักผ้าทำงานหนักเกินไป ช่วยให้การซักผ้าในแต่ละครั้งเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดกับเครื่องซักผ้า

ระวังเครื่องซักผ้าทำงานหนัก

การใช้เครื่องซักผ้าติดต่อกันเป็นเวลานานโดยไม่พักอาจทำให้เครื่องซักผ้าทำงานหนักเกินไป มอเตอร์เกิดความร้อนสูงจนไหม้และเกิดความเสียหายร้ายแรงได้ หากมอเตอร์พัง การซ่อมเครื่องซักผ้ามีวิธีเดียวคือต้องเปลี่ยนมอเตอร์เครื่องซักผ้าใหม่ ซึ่งมีราคาสูงและต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นคนทำ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้งานเครื่องซักผ้าติด ๆ กันทั้งวัน หลังจากซักผ้าเสร็จแต่ละครั้งควรปล่อยให้เครื่องซักผ้าได้พักสักครู่เพื่อระบายความร้อนและป้องกันอุปกรณ์ภายในเกิดความเสียหาย

ระบายอากาศหลังซักผ้าเสร็จ

หลังจากซักผ้าเสร็จทุกครั้ง ไม่ควรรีบปิดฝาเครื่องซักผ้าทันที ควรเปิดฝาเครื่องทิ้งไว้สักพักเพื่อระบายอากาศและความชื้นภายในถังซักออกไป วิธีนี้จะช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นอับและเชื้อราภายในถังซัก นอกจากนี้ยังช่วยให้ถังซักแห้งเร็วขึ้นด้วย

หมั่นตรวจเช็กท่อระบายน้ำทิ้งเป็นประจำ

ควรตรวจสอบท่อระบายน้ำทิ้งของเครื่องซักผ้าเป็นประจำ พร้อมกับเอาสิ่งสกปรกและเศษผ้าในท่อออกเพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก หากพบว่าท่อมีรอยร้าว ท่อแตก รั่ว ซึม ควรเปลี่ยนใหม่ทันที วิธีนี้จะช่วยป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมได้เป็นอย่างดี

วางเครื่องซักผ้าให้ถูกที่

ควรวางเครื่องซักผ้าบนพื้นเรียบ มั่นคง แข็งแรง ไม่วางชิดผนังเกินไป และควรวางบนฐานรองเครื่องซักผ้าเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องซักผ้าเคลื่อนที่จากแรงสั่นสะเทือนขณะกำลังทำงาน นอกจากนี้ควรวางเครื่องซักผ้าในบริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีแมลงสาบหรือหนู เพราะสัตว์เหล่านี้อาจจะเข้าไปทำรังภายในเครื่องซักผ้าได้ หลีกเลี่ยงการวางเครื่องซักในบริเวณที่ถูกแสงแดดโดยตรง บริเวณที่โดนฝน หรือบริเวณที่มีความชื้นสูง เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและปัญหาทางไฟฟ้า

ซ่อมเครื่องซักผ้าด้วยตัวเอง แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

เมื่อเครื่องซักผ้าเกิดปัญหา การซ่อมเครื่องซักผ้าด้วยตัวเองเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจอาการเบื้องต้นและหาสาเหตุที่แน่ชัดให้เจอเพื่อที่จะได้ทำการแก้ไขอย่างถูกต้องและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันมักมาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัยและฟังก์ชันใช้งานจำนวนมาก บางปัญหาที่มีความยากและซับซ้อน หากไม่สามารถซ่อมเองได้ก็ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบและแก้ไขเพื่อให้เครื่องซักผ้ากลับมาทำงานได้ตามปกติ 

สำหรับคนที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้าคุณภาพดี มีเทคโนโลยีทันสมัยพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายและตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ เครื่องซักผ้า Beko เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี AquaTech ที่ซักผ้าได้สะอาดในเวลาอันรวดเร็วและช่วยถนอมผ้าได้มากกว่า 50% รวมถึงเทคโนโลยีคอมเพรสเซอร์ ProSmart Inverter Motor ที่ช่วยประหยัดไฟได้สูงสุดถึง 47% มอบประสิทธิภาพการซักที่ยอดเยี่ยม ทั้งยังไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาและการซ่อมแซมเครื่องซักผ้าเพราะให้ความอุ่นใจกว่ากับการรับประกันมอเตอร์ยาวนาน 12 ปี และ on-site service 2 ปี รายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.beko.com/th-th/aquatech