ปรับอุณหภูมิตู้เย็นให้เหมาะสม พร้อมวิธีตั้งค่าให้ประหยัดไฟมากที่สุด!

ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับทุกบ้าน แต่รู้ไหมว่าการปรับอุณหภูมิตู้เย็นนั้นมีผลต่อทั้งความสดใหม่ของอาหารและค่าไฟของคุณโดยตรง บทความนี้ขอเสนอคู่มือฉบับย่อเรื่องการปรับความเย็นตู้เย็นให้เหมาะสม เพื่อให้คุณเก็บรักษาอาหารในตู้เย็นได้นานขึ้น ประหยัดไฟมากขึ้น และเพื่อยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นในระยะยาว มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่น่ารู้เกี่ยวกับการปรับความเย็นของตู้เย็น

สารบัญบทความ

• ปรับอุณหภูมิตู้เย็นให้เหมาะสม เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยเหตุผลหลัก 5 ข้อ
   
• อุณหภูมิตู้เย็นที่เหมาะสมคือเท่าไหร่ บ้านของคุณตั้งค่าตู้เย็นถูกหรือไม่?
   
• วิธีตรวจสอบอุณหภูมิตู้เย็นทำอย่างไรได้บ้าง? เช็กตัวเลขก่อนปรับอุณหภูมิตู้เย็น
   
• วิธีการปรับอุณหภูมิตู้เย็น 3 แบบยอดฮิต
   
• แนะนำการดูแลรักษาและปรับอุณหภูมิตู้เย็น ตัวช่วยในการเซฟค่าไฟและรักษาความสดใหม่ของอาหาร!
   
• BEKO ตู้เย็นมาตรฐานจากยุโรปที่มาพร้อมฟังก์ชันปรับอุณหภูมิตู้เย็นแบบ ProSmart Inverter Compressor
   
• ปรับอุณหภูมิตู้เย็นให้เหมาะสม ไปพร้อมกับ BEKO ตู้เย็นคุณภาพสำหรับทุกคนในครอบครัว

ปรับอุณหภูมิตู้เย็นให้เหมาะสม เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยเหตุผลหลัก 5 ข้อ

การปรับอุณหภูมิตู้เย็นถือเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ตู้เย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนี่คือ 5 เหตุผลหลักของการปรับระดับความเย็นของตู้เย็นที่คุณไม่ควรมองข้าม

1. ช่วยให้อาหารสดใหม่และอยู่ได้นาน เพราะอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยรักษาคุณภาพของอาหารไว้ได้ดีกว่าอุณหภูมิที่ต่ำหรือสูงจนเกินไป

2. ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในอาหาร โดยเฉพาะการชะลอการเติบโตของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่อาจทำให้อาหารเน่าเสีย

3. ลดปัญหารสชาติและเนื้อสัมผัสของวัตถุดิบเปลี่ยนไป เพราะการตั้งค่าความเย็นตู้เย็นไม่เหมาะสมอาจทำให้อาหารบางอย่างเกิดรสชาติผิดเพี้ยนหรือเน่าเสียได้

4. ประหยัดไฟ โดยถ้าตู้เย็นปรับอุณหภูมิเหมาะสมก็จะช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานได้ เพราะตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเสียบปลั๊กตลอดเวลา

5. ลดปัญหาเสียงรบกวน เพราะการตั้งความเย็นตู้เย็นที่ไม่ถูกต้องหรือเย็นเกินไปอาจทำให้เกิดเสียงรบกวนจากการทำงานของตัวเครื่อง

อุณหภูมิตู้เย็นที่เหมาะสมคือเท่าไหร่ บ้านของคุณตั้งค่าตู้เย็นถูกหรือไม่?

สำหรับใครที่อยากรู้ว่าบ้านของคุณปรับอุณหภูมิตู้เย็นไว้ถูกต้องตามหลักหรือไม่ ช่องฟิตตู้เย็นอุณหภูมิเท่าไหร่ดี หรือตู้เย็นช่องธรรมดาควรตั้งกี่องศา อุณหภูมิตู้เย็นที่เหมาะสมก็สามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลัก ดังนี้ 

ปรับอุณหภูมิตู้เย็นสำหรับช่องแช่แข็ง

การปรับอุณหภูมิตู้เย็น 2 ประตู หรือตู้เย็น Side by Side ที่แยกช่องแช่แข็งกับช่องแช่เย็นนั้น ในส่วนของการตั้งค่าอุณหภูมิในช่องแช่แข็งหรือช่องฟรีซอุณหภูมิควรอยู่ที่ประมาณ -18 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่านั้น ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สามารถแปรสภาพอาหารให้กลายเป็นน้ำแข็งได้ในทันที จึงสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ต่าง ๆ รวมถึงแบคทีเรียที่อาจทำให้อาหารเน่าเสียไว

โดยการปรับความเย็นตู้แช่แข็งที่เหมาะสมไม่เพียงทำให้อาหารปลอดภัยจากเชื้อโรค แต่ยังช่วยรักษารสชาติและคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เมื่ออาหารถูกแช่แข็งอย่างถูกวิธีก็จะสามารถคงความกรอบหรือความนุ่มนวลของเนื้อสัมผัสและรสชาติดั้งเดิมไว้ได้เป็นเวลานาน

ปรับอุณหภูมิตู้เย็นสำหรับช่องแช่เย็น

การปรับอุณหภูมิตู้เย็นที่เหมาะสมในช่องแช่เย็นของตู้เย็น Multi Door ถือเป็นกุญแจสำคัญในการคงความสดใหม่ของอาหาร โดยทั่วไปช่องแช่เย็นตู้เย็นควรปรับความเย็นให้อยู่ในช่วงประมาณ 3 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สามารถชะลอการเติบโตของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ แต่ก็ไม่เย็นเกินไปจนทำให้ผักและผลไม้เสียหายจากการแช่เย็น

อย่างไรก็ตาม วิธีปรับอุณหภูมิตู้เย็นที่เหมาะสมที่สุดอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารที่เก็บไว้ เช่น เนื้อสัตว์ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 0 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันการเน่าเสีย ผักและผลไม้ในช่องแช่ผักอุณหภูมิควรอยู่ที่ 4-8 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาความกรอบและรสชาติ

วิธีตรวจสอบอุณหภูมิตู้เย็นทำอย่างไรได้บ้าง? เช็กตัวเลขก่อนปรับอุณหภูมิตู้เย็น

ในตู้เย็นรุ่นเก่า วิธีตรวจสอบอุณหภูมิง่าย ๆ คือการดูเทอร์โมมิเตอร์ที่ติดอยู่ในตู้เย็น โดยตู้เย็นบางรุ่นอาจมีเทอร์โมมิเตอร์ทั้งในช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็ง ซึ่งคุณสามารถอ่านค่าอุณหภูมิได้โดยตรง หรือจะใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบพกพาที่มีขายตามท้องตลาด นำเข้าไปวางไว้ในตู้เย็นสักพักแล้วจึงนำออกมาอ่านค่า ก็เป็นวิธีการตรวจสอบอุณหภูมิที่ถูกต้องและแม่นยำ

สำหรับตู้เย็นรุ่นใหม่ ๆ หลายรุ่นได้ติดตั้งจอแสดงผลดิจิทัลไว้บนตัวตู้เย็นแล้ว ซึ่งแสดงอุณหภูมิภายในตู้เย็นแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ บางรุ่นยังสามารถตั้งค่าอุณหภูมิที่ต้องการได้อีกด้วย วิธีนี้จึงถือว่าสะดวกและช่วยประหยัดเวลาอย่างมาก โดยไม่จำเป็นต้องเปิดตู้เย็นบ่อยครั้งเพื่อตรวจสอบก่อนปรับอุณหภูมิตู้เย็น

วิธีการปรับอุณหภูมิตู้เย็น 3 แบบยอดฮิต

ปัจจุบันวิธีปรับอุณหภูมิตู้เย็นที่พบได้บ่อย ๆ มี 3 แบบ ดังนี้

ปรับอุณหภูมิด้วยตัวเลข

การปรับอุณหภูมิตู้เย็นด้วยแผงควบคุมแบบตัวเลขมักจะมีตัวเลขตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 5 หรือ 9 โดยตัวเลขเหล่านี้จะไม่ได้หมายถึงอุณหภูมิในตู้เย็น แต่เป็นการกำหนดระดับความเย็นหรือกำลังการทำความเย็นของตู้เย็นนั่นเอง ซึ่งหมายเลขต่ำจะเป็นการตั้งค่าให้ตู้เย็นทำความเย็นระดับต่ำ ขณะที่หมายเลขสูงสุดอย่าง 5 หรือ 9 ก็จะเป็นการปรับให้ตู้เย็นทำงานในระดับสูงสุด 

ดังนั้น ถ้าต้องการปรับอุณหภูมิตู้เย็นให้เย็นขึ้นต้องเลือกตัวปรับอุณหภูมิตู้เย็นในหมายเลขที่สูง และถ้าอยากให้อุณหภูมิอุ่นก็ให้เลือกหมายเลขต่ำลง โดยทั่วไปแนะนำให้ตั้งค่าตู้เย็นอยู่ประมาณกลาง ๆ ที่ 3 หรือ 4 เพื่อไม่ให้เย็นหรืออุ่นจนเกินไป

ปรับอุณหภูมิด้วยแถบปรับระดับ

บางรุ่นของตู้เย็นอาจมีระบบควบคุมอุณหภูมิด้วยการใช้แถบปรับระดับความเย็น ซึ่งจะไม่แสดงค่าตัวเลขอุณหภูมิแต่จะบอกระดับความเย็นด้วยคำ โดยวิธีปรับอุณหภูมิตู้เย็นคือเลื่อนแถบควบคุมไปยังระดับที่ต้องการ เช่น ถ้าอยากให้ตู้เย็นทำความเย็นในระดับปกติก็ตั้งแถบไปที่ normal 

วิธีนี้แม้ไม่สามารถกำหนดอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ แต่ก็ถือว่าง่ายและทำได้ทุกคน โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ได้จำเป็นต้องควบคุมอุณหภูมิแบบละเอียด โดยถ้าไม่แน่ใจว่าระดับใดเหมาะสมกับการใช้งาน ให้ลองเริ่มที่ระดับกลางก่อน แล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงไประยะหนึ่ง จากนั้นจึงปรับเพิ่มหรือลด

ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติผ่านเซนเซอร์ควบคุม

เทคโนโลยีการควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติผ่านระบบเซนเซอร์สำหรับตู้เย็น ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยประหยัดพลังงานและรักษาคุณภาพของอาหารได้เป็นอย่างดี โดยระบบนี้จะติดตั้งเซนเซอร์วัดอุณหภูมิที่สามารถรับรู้อุณหภูมิในตู้เย็นและส่งข้อมูลไปยังหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับความต้องการของผู้ใช้งาน

การปรับอุณหภูมิตู้เย็นด้วยเซนเซอร์จะช่วยให้อุณหภูมิคงที่ โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าอุณหภูมิที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย จากนั้นระบบจะควบคุมการทำงานของ Compressor และพัดลมระบายความร้อนตามค่าที่ตั้งไว้ ซึ่งนอกจากจะยืดอายุการเก็บรักษาอาหารแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าอีกด้วย เพราะ Compressor จะทำงานเท่าที่จำเป็น เหมาะกับขนาดตู้เย็น และไม่สิ้นเปลืองพลังงานมากเกินไป

แนะนำการดูแลรักษาและปรับอุณหภูมิตู้เย็น ตัวช่วยในการเซฟค่าไฟและรักษาความสดใหม่ของอาหาร!

วิธีการดูแลรักษาตู้เย็นและปรับอุณหภูมิตู้เย็นที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการคงความสดของอาหารและประหยัดพลังงาน โดยหลักการง่าย ๆ ในการดูแลรักษาอุณหภูมิภายในตู้เย็น มีดังนี้

• ตรวจสอบและตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม โดยควรตั้ง 2-4 องศาเซลเซียสสำหรับช่องแช่เย็น และ -18 องศาเซลเซียสสำหรับช่องแช่แข็ง

• หมั่นทำความสะอาดช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกหมักหมม อุดตัน 

• จัดวางอาหารให้มีช่องว่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก อย่าวางอาหารแน่นเกินไป

• หลีกเลี่ยงการเปิดประตูตู้เย็นบ่อยครั้งหรือนานเกินความจำเป็น

• รักษาระยะห่างด้านหลังตู้เย็นให้มีพื้นที่ถ่ายเทอากาศได้สะดวก

BEKO ตู้เย็นมาตรฐานจากยุโรปที่มาพร้อมฟังก์ชันปรับอุณหภูมิตู้เย็นแบบ ProSmart Inverter Compressor

BEKO เป็นแบรนด์ตู้เย็นมาตรฐานระดับพรีเมียมจากยุโรป ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการออกแบบตู้เย็นที่มีประสิทธิภาพสูง ทนทาน และประหยัดพลังงาน ซึ่งหนึ่งในฟังก์ชันที่โดดเด่นของตู้เย็น BEKO คือระบบปรับอุณหภูมิตู้เย็นอัจฉริยะ ProSmart Inverter Compressor ซึ่งช่วยให้การทำความเย็นมีประสิทธิภาพและแม่นยำ

โดยระบบ ProSmart Inverter Compressor ถูกออกแบบมาเพื่อปรับระดับการทำงานของ Compressor ให้เหมาะกับความต้องการทำความเย็นตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างแม่นยำ จึงทำให้ตู้เย็นสามารถรักษาระดับอุณหภูมิที่ต้องการได้อย่างคงที่ นอกจากนี้ ยังทำงานได้เงียบกว่า Compressor รุ่นเก่า ทำให้ตู้เย็นมีเสียงรบกวนน้อยลง พร้อมทั้งมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น

ด้วยระบบ ProSmart Inverter Compressor ร่วมกับนวัตกรรมอื่น ๆ อาทิ ระบบทำความเย็นแบบแยกส่วนอิสระ NeoFrost ระบบกระจายลมเย็นแบบ AeroFlow และเทคโนโลยีรักษาคุณค่าทางโภชนาการของอาหารอย่าง HarvestFresh และ NutriFreeze ทำให้ตู้เย็น BEKO ตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจในเรื่องความสดของอาหารและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ปรับอุณหภูมิตู้เย็นให้เหมาะสม ไปพร้อมกับ BEKO ตู้เย็นคุณภาพสำหรับทุกคนในครอบครัว

การปรับอุณหภูมิตู้เย็นให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสดใหม่ของอาหารและประหยัดพลังงาน โดยแนะนำให้ตั้งอุณหภูมิประมาณ 2-4 องศาเซลเซียสสำหรับช่องแช่เย็น และ -18 องศาเซลเซียสสำหรับช่องแช่แข็ง พร้อมทั้งหมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์และช่องว่างถ่ายเทอากาศเป็นประจำ จะช่วยให้ตู้เย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คงความสดของอาหาร และประหยัดพลังงานมากขึ้น

สำหรับใครที่กำลังวางแผนมองหาตู้เย็นรุ่นใหม่ ๆ BEKO ตู้เย็นคุณภาพมาตรฐานระดับพรีเมียม พร้อมนวัตกรรมการออกแบบที่ล้ำสมัย อาทิ ระบบ ProSmart Inverter Compressor ที่ช่วยในเรื่องการปรับความเย็น รวมถึงฟังก์ชันอื่น ๆ อย่าง NeoFrost, AeroFlow, HarvestFresh และ NutriFreeze ที่ช่วยคงคุณภาพและคุณค่าทางโภชนาการของอาหารให้คงความสด ทำให้ตู้เย็น BEKO เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการสำหรับทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี รับประกันมอเตอร์ 12 ปี รับประกันตัวเครื่อง 2 ปี มีบริการถึงบ้านฟรี 2 ปี (On-site Service) มั่นใจด้วยคุณภาพจากยุโรป และศูนย์บริการทั่วไทย