ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
คุณเพิ่งเพิ่มสินค้านี้ในรายการที่คุณต้องการ
คุณเพิ่งลบสินค้านี้ออกจากรายการที่ต้องการ
คุณไม่สามารถเพิ่มไปยังรายการที่ต้องการ
คุณไม่สามารถเพิ่มไปยังรายการที่ต้องการ
คุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการล้างการเปรียบเทียบของคุณ
ดำเนินการต่อ
คุณสามารถเปรียบเทียบสินค้าได้จากหมวดหมู่เดียวกันเท่านั้น
คุณเพิ่งเพิ่มรายการเพื่อเปรียบเทียบ ดำเนินการต่อ
คุณเพิ่งลบรายการเพื่อเปรียบเทียบ ดำเนินการต่อ
รายการเปรียบเทียบของคุณเต็มแล้ว
คุณเพิ่มสินค้าแค่ 1 รายการเท่านั้น โปรดเพิ่มสินค้าเพื่อทำการเปรียบเทียบ
ขนาดตู้เย็นเลือกแบบไหนดี แนะนำวิธีเลือกที่ตอบโจทย์การใช้งาน
ขนาดตู้เย็นเลือกแบบไหนดี แนะนำวิธีเลือกที่ตอบโจทย์การใช้งาน

อ่านแล้ว 2 นาทีที่แล้ว

ตู้เย็นขนาดใหญ่
ตู้เย็นขนาดใหญ่

วิธีเลือกขนาดตู้เย็น แนะนำวิธีเลือกให้เหมาะสม ตอบโจทย์การใช้งาน

ขนาดตู้เย็น หนึ่งในปัจจัยสำคัญของการเลือกซื้อตู้เย็นสำหรับการใช้งานภายในที่พักอาศัย เพราะเมื่อมีขนาดที่ต่างกัน ราคาและฟังก์ชันในการใช้งานก็ย่อมแตกต่างกันไปด้วย แต่จะทราบได้อย่างไรว่าตู้เย็นขนาดเล็ก, ตู้เย็นขนาดใหญ่ หรือคิวของตู้เย็นแบบไหนที่เหมาะและตอบโจทย์การใช้งานมากกว่ากัน เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจ และให้คุ้มค่ามากที่สุด วันนี้เรามีวิธีเลือกซื้อตู้เย็นสำหรับมือใหม่มาแนะนำกัน

ขนาดตู้เย็น และประเภทตู้เย็นที่ตอบโจทย์การใช้งานในบ้าน

 

ใครที่กำลังมองหาตู้เย็นมาใช้งานในบ้านจะเห็นว่าขนาดตู้เย็นแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน และยังมีชื่อเรียกแต่ละประเภทที่หลากหลายด้วย ทำให้ตัดสินใจซื้อได้ยากขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ตู้เย็นที่ตอบโจทย์การใช้งานในบ้านมีทั้งหมด 5 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

 

 

ตู้เย็น 1 ประตู (One Door) ตัวเลือกสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก

ตู้เย็นขนาดกลาง
ตู้เย็นขนาดกลาง

ตู้เย็น 1 ประตู หรือที่เรียกว่า One Door เป็นตู้เย็นขนาดกลางที่เหมาะสำหรับครอบครัวเล็ก จุดเด่นอยู่ที่ขนาดตู้เย็นที่เหมาะสำหรับวางในพื้นที่ที่จำกัด เปิดใช้งานได้ง่ายไม่ต้องแยกชั้น โดยภายในมีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่สำหรับช่องแช่แข็ง ชั้นวางของ ลิ้นชักสำหรับแช่ของสด รวมทั้งช่องแช่เครื่องดื่มและไข่ที่ด้านข้างของประตูเอาไว้อย่างครบครัน

 

 

ตู้เย็น 2 ประตู (Two Door) ตัวเลือกที่เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง

ตู้เย็น 2 ประตู
ตู้เย็น 2 ประตู

ขยับมาอีกประเภทกับตู้เย็นที่มีการแยกส่วนของประตูเป็น 2 บาน ทำให้มีขนาดที่ใหญ่กว่าขนาดตู้เย็น 1 ประตูเล็กน้อย โดยมีความสูงของตู้เย็นมากกว่าเพราะเพิ่มประตูช่องแช่แข็งที่ด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นพื้นที่สำหรับแช่เย็นสำหรับของสด ช่องแช่เครื่องดื่ม และไข่ที่ข้างประตูเช่นเดียวกับตู้เย็นแบบบานเดียว และด้วยการแยกสัดส่วนช่องแช่ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ ตู้เย็น 2 ประตู ตอบโจทย์สำหรับครอบครัวขนาดกลางหรือผู้ที่ต้องการใช้งานตู้เย็นด้วยฟังก์ชันที่ดีกว่าตู้เย็นประตูเดียว

 

 

ตู้เย็นไซด์บายไซด์ (Side by Side) ตัวเลือกสำหรับความสะดวกสบาย

ความสูงตู้เย็น
ความสูงตู้เย็น

ตู้เย็น Side by Side คือตู้เย็นที่มาพร้อมกับประตูที่เปิดสองทางคือฝั่งซ้ายและขวา โดยขนาดตู้เย็น Side by Side โดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดความกว้างตู้เย็นมากกว่าตู้เย็น 1 ประตู แต่ความสูงตู้เย็นจะใกล้เคียงกับแบบสองประตู ข้อดีของตู้เย็นประเภทนี้คือการเปิดได้สองฝั่ง คุณสามารถเปิดเพียงประตูใดประตูหนึ่งเพื่อหยิบของ ทำให้ความร้อนไหลเข้าตู้เย็นน้อยลง และตู้เย็น Side by Side บางรุ่นยังมีจุดเด่นที่มากกว่า อย่างจุดกดน้ำดื่มโดยไม่ต้องเปิดตู้เย็น อีกทั้งสัดส่วนพื้นที่ใช้งานยังแบ่งไว้อย่างชัดเจนในแต่ละฝั่ง ทำให้หาของง่าย หยิบใช้สอยสะดวกขึ้น

 

 

ตู้เย็นมัลติดอร์ (Multi Door) ตัวเลือกที่ครบครันทั้งสัดส่วนและฟังก์ชัน

ความกว้างตู้เย็น
ความกว้างตู้เย็น

ตู้เย็น Multi Door ตู้เย็นที่ตอบโจทย์สำหรับใช้งานในครอบครัวขนาดใหญ่ หรือบ้านที่เน้นการแช่สิ่งของจำนวนมาก เพราะมีขนาดตู้เย็นที่ใหญ่กว่าประเภทอื่น และมาพร้อมช่องสำหรับใช้งานที่ครบครันกับประตูที่เลือกเปิดได้หลายบาน ซึ่งแต่ละบานก็มีสัดส่วนในการแช่ของสด แช่แข็ง หรือแช่เครื่องดื่ม จุดเด่นอยู่ที่ขนาดและดีไซน์ที่บ่งบอกถึงความหรูหราและทันสมัย นอกจากนี้ยังมักจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Smart Home ที่ช่วยให้ความสะดวกสบาย ได้ฟังก์ชันที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน

 

 

ตู้เย็นมินิบาร์ (Minibar) ตัวเลือกสำหรับพื้นที่ใช้สอยจำกัด

ตู้เย็นขนาดเล็กประหยัดไฟ
ตู้เย็นขนาดเล็กประหยัดไฟ

ตู้เย็นขนาดเล็กประหยัดไฟ เป็นตู้เย็นที่มี 1 ประตู ที่มาพร้อมขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับตั้งในพื้นที่ที่จำกัด หรือใช้เป็นตู้เย็นเสริมสำหรับแช่เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง หรืออาหารสำเร็จรูปได้ และด้วยขนาดของตู้เย็นและช่องแช่เย็นที่ค่อนข้างจำกัด จึงเหมาะใช้เพียงแค่ตู้เย็นสำหรับแช่สิ่งของเฉพาะอย่างภายในห้อง หรือเป็นการพักอาศัยแบบชั่วคราว เช่น โรงแรม เป็นต้น

 

 

 

 

การคำนวณขนาดตู้เย็น ให้เพียงพอต่อการใช้งาน

 

ตู้เย็นมีหลายประเภท หลายขนาด การเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานจริงจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะคงไม่ดีแน่ถ้าซื้อขนาดตู้เย็นเล็กมาเพื่อหวังจะประหยัดไฟ แต่เมื่อใช้งานจริงกลับมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการแช่สิ่งของ ดังนั้น เพื่อให้ได้ขนาดตู้เย็นที่ตอบโจทย์กับการใช้งานจริง ก่อนซื้อให้ลองใช้สูตรคำนวณขนาดของตู้เย็น โดยมีวิธีคิดดังนี้ 

 

สูตรคำนวณจากขนาดโครงสร้างตู้เย็น

ความกว้าง (ฟุต) x ความสูง (ฟุต) x ความลึก (ฟุต) = ขนาดคิวบิกฟุต

ตัวอย่าง : กว้าง 2 ฟุต x สูง 4 ฟุต x ลึก 2 ฟุต = 16 คิว

 

สูตรคำนวณจากการแปลงจำนวนลิตร 

สูตรที่คำนวณคิวตู้เย็นจากการแปลงลิตรจะใช้สูตรที่ว่า 1 ลิตร = 0.0353147 คิว

ตัวอย่าง : ตู้เย็นขนาด 16 คิว จะอยู่ที่ความจุประมาณ 453 ลิตร 

 

สำหรับจำนวนคิวของตู้เย็นที่ได้นั้นจะใช้ในการพิจารณาความเหมาะสมต่อการใช้งานได้ง่ายขึ้น เพราะยิ่งขนาดคิวบิกฟุตของตู้เย็นเยอะก็ยิ่งมีขนาดใหญ่ให้พื้นที่แช่เย็นได้หลายช่อง เช่น ขนาดตู้เย็น 5 คิว เป็นตู้เย็น 1 ประตู มีช่องแช่น้อย และมีขนาดของตู้เย็นไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถแช่ของจำเป็นและของสดได้ เหมาะกับห้องขนาดเล็ก หรือพื้นที่ภายในบ้านที่มีจำกัด ส่วนถ้าต้องการปริมาณช่องแช่ที่มากขึ้น และมีการแบ่งช่องแช่แข็งไว้ด้านบน ตู้เย็นแบบ 2 ประตู หรือความจุตั้งแต่ 7 คิวขึ้นไปจะตอบโจทย์กว่า

ปัจจัยในการเลือกขนาดตู้เย็นที่เหมาะกับคุณ

 

นอกจากขนาดตู้เย็นที่ต้องให้ความสำคัญในการพิจารณาเลือกซื้อแล้ว ยังต้องดูจากปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ได้ตู้เย็นที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยมีหลักที่ต้องพิจารณาดังนี้ 

 

พื้นที่ภายในบ้านที่เหมาะกับขนาดตู้เย็น

 

แล้วจะวางตู้เย็นตรงไหนดี? ปัจจัยแรกให้ดูจากพื้นที่ภายในบ้านที่ต้องการวางตู้เย็น ต้องประเมินให้ดีว่ามีพื้นที่เพียงพอต่อขนาดตู้เย็นทั้งด้าน กว้าง ยาว และสูง หรือไม่ รวมทั้งในระหว่างการเปิดประตูตู้เย็นรัศมีการเปิดจะติดหรือชนกับผนังหรือไม่ และสิ่งสำคัญที่สุดคือพื้นที่ว่างรอบด้านทั้งด้านบน และด้านข้างของตู้เย็นต้องเว้นว่างไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตร เพื่อใช้สำหรับการระบายความร้อนตลอดเวลา

 

จำนวนสมาชิกในบ้านกับพื้นที่ใช้งานที่เหมาะสม

 

เมื่อพิจารณาจากขนาดที่ตั้งแล้ว ให้ลองดูจำนวนผู้อยู่อาศัยหรือสมาชิกภายในบ้านต้องเหมาะสมกับจำนวนคิวของตู้เย็นด้วย เพราะยิ่งมีจำนวนสมาชิกมากความจำเป็นต่อการใช้ตู้เย็นยิ่งมากขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1 คน ต่อความจุ 100-150 ลิตร หรือยึดตามเกณฑ์ต่อไปนี้ 

 

  • สมาชิกในบ้าน 1-2 คน ขนาดที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 7-13 คิว หรือ 200-380 ลิตร

  • สมาชิกในบ้าน 3-4 คน ขนาดที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 12-18 คิว หรือ 350-530 ลิตร

  • สมาชิกตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ขนาดที่เหมาะสมไม่ควรต่ำกว่า 15 คิว หรือ 440 ลิตร 

     

ลักษณะการใช้งานต้องสอดคล้องกับความจุของตู้เย็น

 

นอกจากปริมาณความจุของตู้เย็นแล้ว ลักษณะการใช้งานยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะบ้านที่อยู่กันหลายคนยิ่งมีไลฟ์สไตล์ในการใช้ตู้เย็นที่ต่างกัน เช่น เป็นคนที่ชอบทำอาหารวัตถุดิบเยอะ ควรเลือกขนาดตู้เย็นที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 12-18 คิว หรือเป็นตู้เย็นประเภท Multi Door ส่วนถ้าครอบครัวไหนไม่เน้นการแช่วัตถุดิบทำอาหารอาจพิจารณาเป็นตัวเลือกอย่างตู้เย็น 2 ประตู หรือประมาณ 7-13 คิวก็เพียงพอ

 

เทคโนโลยีหรือฟังก์ชันพิเศษที่ให้ความสะดวกสบาย

 

ตู้เย็นในปัจจุบันได้มีการนำเอาเทคโนโลยี และฟังก์ชันที่ทันสมัยเข้ามาปรับใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน โดยฟังก์ชันที่น่าสนใจเช่น ระบบกดน้ำเย็นหรือน้ำแข็งได้จากด้านหน้าโดยไม่ต้องเปิดประตู ระบบกรองอากาศที่ช่วยจัดการกลิ่นจากอาหาร ระบบประหยัดพลังงานที่ช่วยลดการใช้งานที่ไม่จำเป็น และระบบ Smart Home ที่ปรับอุณหภูมิตู้เย็นโดยการควบคุมผ่านสมาร์ตโฟน หรือสั่งการด้วยเสียงพูดได้ เป็นต้น แต่ก็อาจแลกมาด้วยขนาดตู้เย็นที่ใหญ่ขึ้นด้วย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : เคล็ดลับดับกลิ่นตู้เย็นอย่างไรไม่ให้กวนใจคุณ

 

BEKO ครบครันทุกตัวเลือกขนาดตู้เย็น ให้คุณเลือกได้ตามความต้องการ

 

BEKO หนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งความทันสมัย ที่ผสมผสานกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่ใส่ใจในสุขภาพ ตู้เย็นจาก BEKO มีตัวเลือกขนาดตู้เย็นที่หลากหลาย ภายใต้ดีไซน์สุดพรีเมียมของตู้เย็นแต่ละรุ่นยังมาพร้อมกับนวัตกรรมที่ช่วยคงความสดของเนื้อ ถนอมอาหารได้แบบไร้กลิ่นรบกวน และเทคโนโลยี HarvestFresh ที่ใช้แสงไฟ 3 สี จำลองการสังเคราะห์แสงอาทิตย์ภายในตู้เย็นตลอด 24 ชม. เพื่อช่วยรักษาความสดใหม่ของผักและผลไม้ให้คงคุณค่าของวิตามิน A และ C ได้ยาวนานยิ่งขึ้น

 

สรุป ขนาดตู้เย็น เลือกให้เหมาะใช้งานได้คุ้มค่าแน่นอน

 

ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นและขาดไม่ได้ แต่หากเลือกขนาดตู้เย็นที่เล็กเกินไปอาจไม่ตอบโจทย์การใช้งาน หรือตู้เย็นขนาดใหญ่แต่ใช้งานน้อยก็ไม่คุ้มค่า ดังนั้นอย่าลืมนำวิธีคำนวณขนาดตู้เย็นที่เหมาะสมไปลงใช้กันดู และมองหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างตู้เย็นจาก BEKO ที่นอกจากจะได้ความคุ้มค่าแล้ว ยังอัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ของคนรักสุขภาพได้อีกด้วย รับประกันมอเตอร์ 12 ปี รับประกันตัวเครื่อง 2 ปี มีบริการถึงบ้านฟรี 2 ปี (On-site Service) มั่นใจด้วยคุณภาพจากยุโรป และศูนย์บริการทั่วไทย

แชร์

Beko