อบผ้าแล้วผ้าหดเกิดจากอะไร? พร้อมแนะนำวิธีป้องกันและแก้ไข
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
คุณเพิ่งเพิ่มสินค้านี้ในรายการที่คุณต้องการ
คุณเพิ่งลบสินค้านี้ออกจากรายการที่ต้องการ
คุณไม่สามารถเพิ่มไปยังรายการที่ต้องการ
คุณไม่สามารถเพิ่มไปยังรายการที่ต้องการ
คุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการล้างการเปรียบเทียบของคุณ
ดำเนินการต่อ
คุณสามารถเปรียบเทียบสินค้าได้จากหมวดหมู่เดียวกันเท่านั้น
คุณเพิ่งเพิ่มรายการเพื่อเปรียบเทียบ ดำเนินการต่อ
คุณเพิ่งลบรายการเพื่อเปรียบเทียบ ดำเนินการต่อ
รายการเปรียบเทียบของคุณเต็มแล้ว
คุณเพิ่มสินค้าแค่ 1 รายการเท่านั้น โปรดเพิ่มสินค้าเพื่อทำการเปรียบเทียบ
อบผ้าแล้วผ้าหดเกิดจากอะไร? พร้อมแนะนำวิธีป้องกันและแก้ไข
อบผ้าแล้วผ้าหดเกิดจากอะไร? พร้อมแนะนำวิธีป้องกันและแก้ไข

อ่านแล้ว 1 นาทีที่แล้ว

อบผ้าแล้วหด

ปัญหาอบผ้าแล้วผ้าหด สาเหตุมาจากอะไร? แก้ยังไงได้บ้าง?

การอบผ้าเป็นวิธีที่สะดวกในขั้นตอนของการทำความสะอาดผ้า แต่บางครั้งก็อาจเกิดปัญหาอบผ้าแล้วผ้าหดได้ ทำให้เสื้อผ้าที่เคยใส่พอดีกลายเป็นคับไปในพริบตา การอบผ้าแล้วหดมักเกิดจากการใช้ความร้อนที่สูงเกินไปหรืออบนานเกินความจำเป็น ในบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันว่าการอบแล้วผ้าหดเกิดจากอะไรได้บ้าง พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขปัญหาทำยังไงไม่ให้เสื้อหด รวมไปถึงการแนะนำวิธีป้องกันผ้าหดหลังการอบผ้า

สาเหตุที่อบผ้าแล้วผ้าหดเกิดจากอะไรได้บ้าง

 

 

 

ถึงแม้ว่าการอบผ้าจะเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการดูแลเสื้อผ้า แต่ในบางครั้งก็อาจเกิดปัญหาอบผ้าแล้วเสื้อหดได้ เรามาดูกันว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้อบเสื้อแล้วหด

 

 

 

อุณหภูมิที่ใช้ในการอบผ้า

 

 

 

อุณหภูมิเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้อบผ้าแล้วผ้าหดตัว เพราะเมื่อเส้นใยผ้าสัมผัสกับความร้อนสูงเกินไป มันจะหดตัวและเบียดกันแน่นขึ้น ส่งผลให้ผ้าทั้งผืนหดลง ดังนั้นการตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมกับชนิดของผ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่มั่นใจควรเลือกใช้อุณหภูมิต่ำในการอบผ้า เพื่อรักษาคุณภาพของเสื้อผ้าให้คงทนยาวนาน

 

 

 

ระดับความชื้นของผ้า

 

 

 

น้ำที่หลงเหลืออยู่ในผ้าหลังซักก็มีผลต่อการอบผ้าแล้วผ้าหดตัวเช่นกัน ผ้าที่เปียกชื้นมากเกินไปเมื่อนำเข้าเครื่องอบ อาจทำให้เกิดการหดตัวได้ง่าย เพราะความร้อนจะทำปฏิกิริยากับน้ำในเนื้อผ้า ทางที่ดีควรบิดหรือปั่นน้ำออกให้มากที่สุดก่อนนำไปอบ เพื่อลดโอกาสที่ผ้าจะหดตัวและประหยัดพลังงานในการอบอีกด้วย

 

 

 

ประเภทของผ้า

 

 

 

ผ้าแต่ละชนิดมีคุณสมบัติการทนอุณหภูมิที่แตกต่างกัน แล้วผ้าแบบไหนห้ามอบบ้าง? สำหรับผ้าบางประเภทอย่าง ผ้าฝ้าย หรือผ้าขนสัตว์ จะมีแนวโน้มที่จะหดตัวได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิสูง จึงไม่ควรนำเข้าเครื่องอบผ้า ในขณะที่ผ้าสังเคราะห์อย่างโพลีเอสเตอร์จะทนความร้อนได้ดีกว่า จึงสามารถอบผ้าได้โดยที่ไม่ต้องกลัวผ้าหด ดังนั้นการเข้าใจประเภทของผ้าจะช่วยให้เราสามารถดูแลเสื้อผ้าได้อย่างถูกวิธี

 

 

 

ปริมาณเสื้อผ้าในเครื่องอบผ้า

 

 

 

สุดท้ายการใส่เสื้อผ้าในเครื่องอบผ้ามากเกินไปก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อบผ้าแล้วผ้าหดได้ เพราะเสื้อผ้าไม่สามารถขยับตัวได้อย่างอิสระ ทำให้ความร้อนกระจายไม่ทั่วถึงและอาจเกิดจุดที่ร้อนเกินไปในบางจุด ดังนั้นควรใส่เสื้อผ้าในปริมาณที่พอเหมาะ โดยให้มีพื้นที่ว่างในเครื่องอบประมาณ 1 ใน 4 เพื่อให้ผ้าสามารถพลิกตัวและรับความร้อนได้อย่างทั่วถึง

หากอบผ้าแล้วผ้าหด มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไรได้บ้าง

อบผ้าแล้วเสื้อหด
อบผ้าแล้วเสื้อหด

สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาอบผ้าแล้วผ้าหดตัว ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะยังมีวิธีแก้ไขที่สามารถช่วยให้เสื้อผ้ากลับมามีขนาดใกล้เคียงเดิมได้ โดยวิธีการแก้ไขผ้าหดจากการอบที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้านจะมีขั้นตอนดังนี้

 

 

 

แช่ผ้าในน้ำอุณหภูมิปกติ

 

 

 

การแช่ผ้าที่หดในน้ำอุณหภูมิปกติเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ น้ำจะช่วยให้เส้นใยผ้าคลายตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น ควรแช่ผ้าทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที เพื่อให้น้ำซึมเข้าเนื้อผ้าอย่างทั่วถึง

 

 

 

ซักด้วยแชมพูเด็กหรือครีมนวดผม

 

 

 

หลังจากที่แช่น้ำจนครบเวลา ให้ซักผ้าด้วยแชมพูเด็กหรือครีมนวดผมเล็กน้อย สารในผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยให้เส้นใยผ้านุ่มและยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการยืดผ้ากลับสู่ขนาดเดิม

 

 

 

บิดน้ำออกจากผ้าอย่างเบามือ

 

 

 

เมื่อซักเสร็จ ให้บิดน้ำออกจากผ้าอย่างเบามือ เพื่อนำน้ำในผ้าออกเท่านั้น โดยไม่ควรบิดแรงจนเกินไปเพราะอาจทำให้ผ้าเสียทรงได้

 

 

 

ใช้ผ้าขนหนูแห้งค่อย ๆ ซับน้ำออกจากผ้า

 

 

 

การบิดน้ำออกจากผ้าอย่างเบามือไม่อาจทำให้น้ำออกจากผ้าได้มาก แนะนำให้ใช้ผ้าขนหนูแห้งค่อย ๆ ซับน้ำที่เหลือออกจากผ้า โดยวิธีนี้จะช่วยดูดซับน้ำที่เหลืออยู่ออก โดยไม่ทำให้ผ้าย่นหรือหดตัวอีกครั้ง

 

 

 

รีดผ้าด้วยเตารีดไอน้ำ 

 

 

 

การรีดผ้าด้วยเตารีดไอน้ำเป็นวิธีในการคืนรูปผ้าจากปัญหาอบผ้าแล้วผ้าหด ไอน้ำจะช่วยให้เส้นใยผ้าคลายตัวและยืดออก โดยควรรีดในขณะที่ผ้ายังชื้นอยู่เล็กน้อย และค่อย ๆ ดึงผ้าให้ยืดออกขณะรีด แต่ระวังอย่าดึงแรงเกินไปจนผ้าเสียทรง การรีดด้วยไอน้ำจะช่วยให้ผ้ากลับมามีขนาดใกล้เคียงกับเดิมมากที่สุด

 

 

 

ตากผ้าโดยไม่ใช้ไม้แขวนเสื้อ 

 

 

 

ขั้นตอนสุดท้าย ให้ตากผ้าโดยวางผ้าราบบนตะแกรงหรือพาดไว้บนราว เหตุผลไม่ควรใช้ไม้แขวนเสื้อเพราะอาจทำให้ผ้ายืดผิดรูปได้ ควรปล่อยให้ผ้าแห้งตามธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยรักษารูปทรงของเสื้อผ้าได้ดีที่สุด

วิธีป้องกันผ้าหดจากการอบผ้า

 

 

 

การอบผ้าเป็นวิธีที่สะดวกในการทำให้ผ้าแห้งหลังจากการซักผ้า แต่ก็อาจทำให้เกิดปัญหาอบผ้าแล้วผ้าหดได้หากไม่ระมัดระวัง มาดูวิธีป้องกันผ้าหดจากการอบผ้าที่สามารถทำได้ง่าย ๆ กัน

 

 

 

เช็กสัญลักษณ์ซักผ้าให้ดี ว่าสามารถอบผ้าได้หรือไม่

 

 

 

ก่อนอบผ้าทุกครั้ง ควรตรวจสอบป้ายสัญลักษณ์ซักผ้าอย่างละเอียดว่าสามารถอบผ้าได้หรือไม่ โดยสัญลักษณ์รูปสี่เหลี่ยมที่มีวงกลมอยู่ข้างในบ่งบอกว่าสามารถอบผ้าได้ แต่หากมีเครื่องหมาย X ทับอยู่ แสดงว่าห้ามอบผ้าชิ้นนั้น การปฏิบัติตามคำแนะนำบนป้ายจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าได้อย่างมาก

 

 

 

เลือกใช้อุณหภูมิที่เหมาะสมในการอบผ้า

 

 

 

การตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมกับชนิดของผ้าเป็นสิ่งสำคัญมาก ผ้าที่บอบบางควรใช้อุณหภูมิต่ำในการอบ ส่วนผ้าที่หนาหรือทนทานกว่าอาจใช้อุณหภูมิสูงขึ้นได้ หากไม่แน่ใจให้เลือกใช้อุณหภูมิต่ำไว้ก่อน ถึงแม้จะใช้เวลานานขึ้นในการอบ แต่จะช่วยป้องกันการหดตัวของผ้าได้ดี

 

 

 

ไม่แช่ผ้านานเกินไป

 

 

 

การแช่ผ้าด้วยน้ำยาซักผ้าเป็นเวลานานจนเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้ผ้าหดตัวง่ายขึ้น เนื่องจากน้ำยาซักผ้าจะไปทำลายโครงสร้างเนื้อผ้า เมื่อนำผ้าไปอบอาจหดตัวได้ หากมีคราบหนัก แนะนำให้เปลี่ยนการแช่ผ้าทั้งชุดเป็นการใช้น้ำยาขจัดคราบเฉพาะจุดจะดีกว่า

 

 

 

ใช้เครื่องอบผ้าที่ถนอมผ้า

 

 

 

การเลือกใช้เครื่องอบผ้าที่มีเทคโนโลยีถนอมผ้าจะช่วยลดความเสี่ยงในการทำให้ผ้าหดตัวได้มาก ตัวอย่างเช่น เครื่องซักอบผ้าจาก Beko ที่มาพร้อมเทคโนโลยีพิเศษหลายอย่าง เช่น ระบบ Wash & Wear โปรแกรมซักอบด่วน ที่สามารถซักอบผ้า 1 กก. พร้อมใส่แบบไร้กลิ่นอับใน 40 นาที นอกจากนี้ยังมีระบบ Direct Air Technology ระบบอบผ้าด้วยการดึงอากาศเข้าหน้าเครื่องโดยตรง ช่วยให้ซักอบผ้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดพลังงาน และลดการใช้น้ำได้มากถึง 40%

 

หมดปัญหาอบผ้าแล้วผ้าหด ด้วยเครื่องอบผ้า Beko

 

 

 

การอบผ้าเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกในการทำให้ผ้าแห้งหลังซัก แต่ปัญหาอบผ้าแล้วผ้าหดก็เป็นสิ่งที่หลายคนกังวล ซึ่งสาเหตุหลักมักมาจากการใช้อุณหภูมิที่สูงเกิน ปริมาณน้ำในผ้ามาก ชนิดของเนื้อผ้าไม่เหมาะกับการอบผ้า และการใส่ผ้ามากเกินไปในเครื่อง ซึ่งจะมีแนวทางในการป้องกัน โดยควรตรวจสอบป้ายสัญลักษณ์ซักผ้า เลือกอุณหภูมิที่เหมาะสม และไม่แช่ผ้านานเกินไป ซึ่งวิธีเหล่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าได้เป็นอย่างมาก

 

สำหรับผู้ที่ต้องการอบผ้าแบบไร้กังวลเรื่องปัญหาผ้าหด เครื่องอบผ้าจาก Beko เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างเทคโนโลยี Gentle Care ที่ช่วยถนอมผ้าด้วยการอบในอุณหภูมิต่ำ ไม่ทำให้เนื้อผ้าหดตัว และเทคโนโลยี SteamCure ระบบไอน้ำร้อนที่ปล่อยกระจายอย่างทั่วถึงระหว่างอบผ้า ช่วยขจัดสารก่อภูมิแพ้ เชื้อรา และแบคทีเรียได้สูงสุด 99%

 

นอกจากนี้ Beko ยังมีเครื่องซักผ้าทั้ง เครื่องซักผ้าฝาหน้า เครื่องซักผ้าฝาบน และเครื่องซักผ้า 2 ถัง ให้ได้เลือกพิจารณาควบคู่ทั้งเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า พร้อมรับประกันมอเตอร์ยาวนาน 12 ปี และ On-site Service 2 ปี สามารถชมรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.beko.com/th-th/tumbledryer

แชร์

Beko