ไม่ง้อแดด! หมดปัญหาผ้ายับ แห้งช้า ค่าไฟแพง ด้วยนวัตกรรมล่าสุดจากเครื่องอบผ้า Beko
สำหรับเมืองร้อนที่แดดดีแทบจะทั้งปีอย่างประเทศไทย “เครื่องอบผ้า” จึงถูกมองว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกินความจำเป็น เพราะคนส่วนใหญ่อาจยังมีคำถามถึงความคุ้มค่า ซึ่งความเป็นจริงแล้วเครื่องอบผ้ามีข้อดีมากมายที่คนยุคใหม่ควรมีไว้ที่บ้าน เช่น การถนอมผ้า หรือประโยชน์ในด้านสุขอนามัย โดยเฉพาะในเครื่องอบผ้าระบบปั๊มความร้อน หรือ Heat Pump ที่มาพร้อมฟังก์ชันสุดล้ำ และตอบโจทย์ผู้ใช้ยุคใหม่ ทั้งเรื่องประหยัดไฟ ช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้า ตลอดจนการเป็นตัวช่วยให้สามารถคอนโทรลชีวิตได้ง่ายขึ้น
เครื่องอบผ้าระบบ Heat Pump จาก Beko (เบโค) ที่ทำงานโดยการรีไซเคิลลมร้อน หรือการนำลมร้อนภายในถังอบกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยลดการใช้พลังงานลงถึง 72% เมื่อเทียบกับเครื่องอบผ้าทั่วไป[1] ปลดล็อคการใช้งานได้อย่างอิสระ ไม่ว่าครอบครัวขนาดใหญ่หรือครอบครัวเด็กเล็กที่มีรอบการซักสูง ก็สามารถอบผ้าปริมาณมากได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟแพงอีกต่อไป
นอกจากนี้ เครื่องอบผ้าไลน์อัพล่าสุดจาก Beko ยังมาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำเอาใจพ่อบ้านแม่บ้านทุกคนอย่าง IronFinish ช่วยลดขั้นตอนการรีดผ้าด้วยการปล่อยพลังไอน้ำร้อนสู่เนื้อผ้าเพื่อช่วยคลี่รอยยับ ให้ผลลัพธ์ผ้าเรียบ นุ่ม ในเวลาเพียง 50 นาที เพียงสะบัดก็พร้อมใส่ได้เลย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เร่งรีบของคนยุคใหม่และสายแอคทีฟได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งฟังก์ชันที่โดดเด่นและจำเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบันคงหนีไม่พ้นด้านสุขอนามัย ซึ่ง Beko ได้พัฒนาเทคโนโลยี SteamCure หรือระบบไอน้ำร้อนทรงพลังที่กระจายตัวอย่างทั่วถึงระหว่างการอบเพื่อทำความสะอาดผ้าอย่างหมดจด ปราศจากกลิ่นอับ รวมถึงสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า โดยผ่านการรับรองประสิทธิภาพจากสถาบันโรคภูมิแพ้แห่งประเทศอังกฤษ (Allergy UK) ว่าสามารถช่วยขจัดสารก่อภูมิแพ้ ไรฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย ได้สูงสุดถึง 99.9% ช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพให้ทุกคนในครอบครัว ตอกย้ำอีกหนึ่งบทบาทของเครื่องอบผ้าในการลดความเสี่ยงจากเชื้อโรคและมลภาวะ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากหากใช้วิธีตากผ้ากลางแจ้ง
พร้อมกันนี้ เครื่องอบผ้าระบบ Heat Pump จาก Beko ยังมาพร้อมฟีเจอร์ถนอมเนื้อผ้าด้วยการใช้ไอน้ำอุณหภูมิต่ำแทนการส่งความร้อนโดยตรงไปยังเนื้อผ้า จึงไม่ทำให้ผ้าหดตัวหรือเสียทรง ทำงานพร้อมกับเทคโนโลยี EcoGentle ช่วยรักษาสีสันของผ้าให้คงความสดใสและยืดอายุการใช้งานให้กับชุดโปรด สนับสนุนการลดปริมาณขยะสิ่งทอตามเทรนด์แฟชั่นหมุนเวียน ตอกย้ำประสิทธิภาพการใช้งานในระยะยาวให้ผู้ใช้ประหยัดได้มากกว่า
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าบทบาทของเครื่องอบผ้านั้นมีความสำคัญไม่แพ้เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เปรียบเสมือนผู้ช่วยมือโปรที่ช่วยแบ่งเบาภาระและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับทุกคนในบ้าน ให้สามารถจัดการและวางแผนชีวิตได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลกับข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ในการตากผ้าหรือปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ อาทิ สภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ และอื่นๆ อีกมากมาย ลบภาพจำแบบเดิมที่เคยมีต่อเครื่องอบผ้าไปอย่างสิ้นเชิง เปลี่ยนการซักผ้าให้เป็นเรื่องง่ายดาย ประหยัดทั้งแรงและเวลาด้วยเครื่องอบผ้าจาก Beko เครื่องเดียว
โดยนอกจากเครื่องอบผ้าระบบ Heat Pump แล้ว ทาง Beko ยังพร้อมเป็นผู้ช่วยมือโปรที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานด้วยไลน์อัพผลิตภัณฑ์เครื่องอบผ้าที่หลากหลาย รวมถึง เครื่องอบผ้าระบบควบแน่น (Condenser) และระบบลมร้อน (Air-vented) พร้อมเพิ่มความมั่นใจด้วยการรับประกันสินค้า และศูนย์บริการทั่วไทยที่ครอบคลุมทั้งการรับประกันมอเตอร์และคอมเพรสเซอร์สูงสุด 12 ปี และบริการ On-site Service ถึง 2 ปี โดยลูกค้าสามารถลงทะเบียนรับประกันสินค้าได้ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://e-warranty.beko.com/ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของเครื่องอบผ้าจาก Beko ได้ทาง https://www.beko.com/th-th/tumbledryer
[1] ใช้พลังงานน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องอบผ้าระบบคอนเดนเซอร์รุ่นมาตรฐานที่มีการใช้พลังงานในระดับ B