ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
คุณเพิ่งเพิ่มสินค้านี้ในรายการที่คุณต้องการ
คุณเพิ่งลบสินค้านี้ออกจากรายการที่ต้องการ
คุณไม่สามารถเพิ่มไปยังรายการที่ต้องการ
คุณไม่สามารถเพิ่มไปยังรายการที่ต้องการ
คุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการล้างการเปรียบเทียบของคุณ
ดำเนินการต่อ
คุณสามารถเปรียบเทียบสินค้าได้จากหมวดหมู่เดียวกันเท่านั้น
คุณเพิ่งเพิ่มรายการเพื่อเปรียบเทียบ ดำเนินการต่อ
คุณเพิ่งลบรายการเพื่อเปรียบเทียบ ดำเนินการต่อ
รายการเปรียบเทียบของคุณเต็มแล้ว
คุณเพิ่มสินค้าแค่ 1 รายการเท่านั้น โปรดเพิ่มสินค้าเพื่อทำการเปรียบเทียบ
เติมน้ำยาแอร์ เติมบ่อยแค่ไหน และมีขั้นตอนการเติมอย่างไร?
เติมน้ำยาแอร์ เติมบ่อยแค่ไหน และมีขั้นตอนการเติมอย่างไร?

อ่านแล้ว 1 นาทีที่แล้ว

เติมน้ำยาแอร์

เติมน้ำยาแอร์ ต้องเติมบ่อยแค่ไหน มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

น้ำยาแอร์ คือหัวใจสำคัญของเครื่องปรับอากาศ ที่ช่วยให้เราได้สัมผัสความเย็นสบายในทุกๆ วัน แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจถึงหน้าที่และความสำคัญของน้ำยาแอร์อย่างแท้จริง การเติมน้ำยาแอร์ให้เพียงพอและถูกวิธี จะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับน้ำยาแอร์ให้มากขึ้น พร้อมทั้งอธิบายถึงขั้นตอนการเติมน้ำยาแอร์ที่ถูกต้อง

น้ำยาแอร์คืออะไร และมีกี่ประเภท?

 

 

 

น้ำยาแอร์ หรือ สารทำความเย็น (Refrigerant) คือ สารของเหลวที่มีหน้าที่ในการดูดซับความร้อนและทำให้เกิดความเย็น โดยมีคุณสมบัติพิเศษในการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นไอหรือแก๊สเมื่อดูดซับความร้อน และสามารถกลับคืนสภาพมาเป็นของเหลวได้อีกครั้งเมื่อระบายความร้อนออกไปในระบบของเครื่องปรับอากาศ

 

การเติมน้ำยาแอร์เป็นการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศ หากน้ำยาแอร์ในระบบมีปริมาณลดลง อาจส่งผลทำให้แอร์ทำความเย็นได้ไม่เต็มประสิทธิภาพหรือเป็นสาเหตุของปัญหาแอร์ไม่เย็น โดยน้ำยาแอร์จะมีตัวอักษร “R” อยู่หน้าตัวเลขน้ำยาแอร์ ย่อมาจากคำว่า Refrigerant ซึ่งน้ำยาแอร์บ้านมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันดังนี้

 

 

 

น้ำยาแอร์ R22

 

 

 

R22 เป็นน้ำยาแอร์ชนิดหนึ่งที่เคยได้รับความนิยมอย่างมากในอดีต เนื่องจากการเติมน้ำยาแอร์ R22 มีประสิทธิภาพในการทำความเย็นที่ดีและราคาไม่แพง แต่ด้วยข้อเสียที่สำคัญคือการทำลายชั้นโอโซน ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก ทำให้หลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ได้มีการออกกฎหมายห้ามผลิตและนำเข้า R22 เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม

 

 

 

น้ำยาแอร์ R32

 

 

 

R32 น้ำยาแอร์รุ่นใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะ R32 เป็นน้ำยาแอร์ชนิดเดี่ยว ซึ่งหมายความว่าประกอบด้วยสารเคมีเพียงชนิดเดียวไม่มีการผสมสารอื่น ๆ เพิ่ม ฉะนั้น การเติมน้ำยาแอร์ R32 จึงสามารถช่วยลดการทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศได้ เป็นทางเลือกที่ดีในการทดแทนน้ำยาแอร์รุ่นเก่าอย่าง R22 นอกจากนี้ น้ำยาแอร์ R32 มีราคาที่จับต้องได้มากกว่าเมื่อเทียบกับน้ำยาแอร์ชนิดอื่น ๆ 

 

 

 

น้ำยาแอร์ R410A

 

 

 

น้ำยาแอร์ R410A เป็นสารทำความเย็นที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทนสารทำความเย็นชนิด R22 ข้อดีของการเติมน้ำยาแอร์ R410A คือไม่ติดไฟและช่วยลดการทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศ แต่ R410A ประกอบด้วยสารเคมี 2 ชนิดผสมกัน หากเกิดการรั่วไหลและต้องเติมน้ำยาเพิ่ม ก็จำเป็นต้องถ่ายน้ำยาเก่าออกให้หมดก่อน แล้วจึงเติมน้ำยาใหม่เข้าไปแทนที่ทั้งหมด

เติมน้ำยาแอร์มีความสำคัญอย่างไร?

เติมน้ำยาแอร์บ้าน
เติมน้ำยาแอร์บ้าน

การเติมน้ำยาแอร์เป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างมาก เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แอร์ของเราสร้างความเย็นได้ โดยการเติมน้ำยาแอร์เป็นการเพิ่มปริมาณสารทำความเย็นให้กับแอร์ เพื่อที่จะให้แอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและสามารถสร้างความเย็นได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าหากน้ำยาแอร์เกิดการรั่วไหลหรือน้ำยาแอร์หมด จะส่งผลทำให้แอร์ทำความเย็นได้ลดลงและทำให้รู้สึกร้อน ถึงแม้ว่าแอร์จะทำงานปกติก็ตาม

ควรเติมน้ำยาแอร์บ่อยแค่ไหน?

 

 

 

คำถามที่หลายคนอาจจะสงสัยว่า เราควรเติมน้ำยาแอร์บ้านชนิด R410A หรือควรเติมน้ำยาแอร์ R32 เท่าไหร่ และควรเติมน้ำยาแอร์บ่อยแค่ไหน? ในกรณีที่ต้องการประหยัดเงิน แนะนำให้เติมน้ำยาแอร์ชนิด R32 เพราะมีความสามารถทำให้แอร์เย็นที่เร็วกว่าและราคาประหยัดกว่าน้ำยาแอร์ชนิด R410A

 

ส่วนเรื่องเติมน้ำยาแอร์ไม่จำเป็นต้องเติมเป็นประจำ เพราะน้ำยาแอร์ถูกออกแบบมาให้สามารถหมุนเวียนอยู่ในระบบปิด ไม่ทำให้น้ำยาแอร์ลดลงหรือหมดไปเอง ถึงแม้ว่าจะใช้งานแอร์เป็นระยะเวลา 5-10 ปีก็ตาม แอร์ก็ยังสามารถทำความเย็นได้ปกติ แต่ส่วนใหญ่หากจะเติมน้ำยาแอร์เป็นปัญหาที่การรั่วซึมมากกว่า หากเกิดปัญหานี้ควรเรียกช่างที่มีความเชี่ยวชาญการซ่อมแซมจุดรั่วและเปลี่ยนน้ำยาแอร์ใหม่

ขั้นตอนการเติมน้ำยาแอร์ มีกี่ขั้นตอน?

วิธีการเติมน้ำยาแอร์บ้าน
วิธีการเติมน้ำยาแอร์บ้าน

ขั้นตอนในการเติมน้ำยาแอร์มีเบื้องต้นอยู่ 5 ขั้นตอนด้วยกัน โดยวิธีการเติมน้ำยาแอร์บ้านจำเป็นต้องดำเนินการโดยช่างที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ เนื่องจากระบบแอร์มีความซับซ้อน ต้องการใช้อุปกรณ์เฉพาะ รวมถึงน้ำยาแอร์ หากเติมน้ำยาแอร์ผิดวิธีอาจทำให้แอร์ทำงานได้ไม่เต็มที่ เกิดความเสียหายต่อเครื่องปรับอากาศได้ โดยรายละเอียดวิธีเติมน้ำยาแอร์ ดังนี้

 

 

 

1. ตรวจสอบหารอยรั่วของน้ำแอร์

 

 

 

ก่อนที่ช่างจะเริ่มเติมน้ำยาแอร์บ้าน จะมีการตรวจสอบระบบทั้งหมดอย่างละเอียดเพื่อตรวจหาอาการผิดปกติ เช่น น้ำแอร์หยดหรือมีการรั่วซึมตามชิ้นส่วนต่าง ๆ โดยทั่วไปจะตรวจหารอยรั่วอย่างการใช้น้ำสบู่ลูบไปตามท่อระบบและบริเวณใดเกิดฟองอากาศขึ้น แสดงว่าจุดนั้นมีการรั่วซึมและจะซ่อมแซมก่อนดำเนินการเติมน้ำยาแอร์ต่อไป

 

 

 

2. ตรวจสอบชนิดของน้ำยาแอร์

 

 

 

การตรวจสอบชนิดของน้ำยาแอร์เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนทำการซ่อมแซมหรือเติมน้ำยาแอร์ใหม่ เพราะน้ำยาแอร์แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้น้ำยาแอร์ที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลเสียต่อระบบทำความเย็น และอาจทำให้เครื่องปรับอากาศเสียหายได้ 

 

 

 

3. ดูดอากาศและความชื้นออกจากระบบ

 

 

 

หลังจากช่างแก้ไขรอยรั่วและดูดน้ำยาแอร์เก่าออกจนหมด ก่อนเติมน้ำยาแอร์ใหม่เข้าลงไป ช่างจะดูดอากาศและความชื้นออกจากระบบทำความเย็นหรือที่เรียกว่าการทำสุญญากาศ โดยใช้ปั๊มสุญญากาศดูดอากาศ ทำให้ท่ออุดตันจากการที่ความชื้นจับตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็งอยู่ภายในระบบท่อ

 

 

 

4. เริ่มเติมน้ำยาแอร์เข้าสู่ระบบ

 

 

 

ช่างจะเปิดวาล์วถังน้ำยาแอร์และปล่อยให้น้ำยาไหลเข้าสู่ระบบอย่างช้า ๆ ในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมทั้งวัดระดับแรงดันเป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าปริมาณน้ำยาที่เติมเข้าไปไม่เกินหรือขาดจากค่าปริมาณที่กำหนดไว้

 

 

 

5. ทดสอบการทำงานของแอร์

 

 

 

หลังเติมน้ำยาแอร์เสร็จเป็นที่เรียบร้อย ช่างจะเปิดระบบและตรวจสอบว่าแอร์สามารถทำความเย็นได้ตามปกติหรือไม่ และดูแรงดันในระบบให้อยู่ในค่ามาตรฐาน

 

ข้อควรรู้ การเติมน้ำยาแอร์มีราคาโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ ครั้งละ 300-1,000 บาท ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามชนิดของแอร์ที่เติมและค่าแรงของช่าง

เติมน้ำยาแอร์ ช่วยแก้ปัญหาแอร์ไม่เย็นได้ แต่ต้องเช็กให้มั่นใจก่อนเติม

 

 

 

การเติมน้ำยาแอร์เป็นหนึ่งในวิธีแก้ไขปัญหาแอร์ไม่เย็นที่พบบ่อย แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเติมน้ำยา ควรตรวจสอบสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้แอร์ไม่เย็นก่อน เพราะหากเติมน้ำยาแอร์โดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง อาจทำให้เสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ และอาจเป็นผลเสียต่อระบบเครื่องปรับอากาศได้

 

เลือกแอร์จาก Beko มั่นใจในคุณภาพและความทนทานจากมาตรฐานการผลิตระดับสากล ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณทั้งเรื่องความเย็น ฟังก์ชันใหม่ และเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน แถมยังพร้อมการรับประกันมาพร้อมการรับประกันยาวนานถึง 10 ปี สำหรับ Inverter และ 5 ปี สำหรับ Non-Inverter พร้อมบริการซ่อม On-Site ถึงบ้าน 2 ปี หมดกังวลเรื่องค่าซ่อมบำรุง เพียงแค่ผ่อนคลายไปกับความเย็นสบายที่ Beko มอบให้ รายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมในเว็บไซต์ https://www.beko.com/th-th/aircon

 

แชร์

Beko